แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาจำนองคดีนี้เป็นการจำนองที่ดินเพื่อประกันการทำงานและหนี้สินของ อ. ในอนาคต ไม่มีกำหนดเวลา มีลักษณะเป็นการประกันเพื่อกิจการเนื่องกันไปหลายคราวไม่มีจำกัดเวลาเป็นคุณแก่เจ้าหนี้ ผู้ค้ำประกันอาจเลิกสัญญาได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 699 และสัญญาจำนองรายการนี้ก็มิได้มีข้อตกลงว่า ผู้จำนองจะต้องผูกพันประกันหนี้ตามสัญญาตลอดไป ดังนั้น ถ้าผู้จำนองได้บอกกล่าวเลิกสัญญานั้นแก่เจ้าหนี้แล้ว ผู้จำนองย่อมมีสิทธิที่จะชำระหนี้ซึ่งมีอยู่เพื่อให้สัญญาจำนองระงับสิ้นไปได้ เมื่อโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้จำนองขอชำระหนี้โดยแจ้งความประสงค์เลิกประกันหนี้รายนี้ต่อไป และได้มีการชำระหนี้ซึ่งมีอยู่ในขณะนั้นแล้ว สัญญาจำนองย่อมระงับสิ้นไป จำเลยต้องจดทะเบียนถอนจำนองให้โจทก์ ไม่มีเหตุที่โจทก์จะต้องนำเงินสดมาวางแทนการจำนอง และเมื่อสัญญาจำนองมิได้มีข้อตกลงว่าผู้จำนองจะต้องรับผิดเกี่ยวกับเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน จึงไม่ผูกพันโจทก์ที่จะต้องรับผิดเกี่ยวกับเงินชดเชยดังกล่าว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนายอูมา เดิมนายอูมาได้จำนองที่ดินต่อบริษัทจำเลยเพื่อประกันการทำงานและหนี้สินของนายออเดซ์ในวงเงิน 300,000 บาท โดยรับรองต่อจำเลยว่า หากนายออเดซ์ทำงานให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทจำเลยแล้ว นายอูมายอมชำระค่าเสียหายให้จำเลยในวงเงินไม่เกิน 300,000 บาท ต่อมานายอูมาได้ถึงแก่กรรมและโจทก์เป็นผู้จัดการมรดก ได้ติดต่อขอทราบจำนวนหนี้สินที่นายออเดซ์มีต่อจำเลยเพื่อชำระหนี้ และใช้สิทธิจดทะเบียนไถ่ถอนการจำนอง จำเลยไม่ยอมแจ้งหนี้และไม่ยอมให้โจทก์ไถ่ถอนจำนอง โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาจำนองค้ำประกันและให้จำเลยแจ้งจำนวนหนี้สินให้โจทก์ทราบ จำเลยแจ้งว่านายออเดซ์ยังทำงานกับจำเลย หนี้การจำนองมีอยู่ตลอดไปจำเลยจดทะเบียนปลดการจำนองต่อเมื่อโจทก์นำเงินสดจำนวน 300,000 บาท มาวางแทนหรือมิฉะนั้นโจทก์จะต้องชำระหนี้แทนนายออเดซ์จำนวน 12,454 บาท 02 สตางค์ และต้องนำเงิน 111,454 บาท ชำระแก่จำเลยเพื่อจำเลยจะได้ชำระเป็นค่าทดแทนในการเลิกจ้างนายออเดซ์ โจทก์เห็นว่าโจทก์มีหน้าที่รับผิดหนี้สินที่นายออเดซ์ทำความเสียหายต้องชดใช้ให้แก่จำเลยเพียงเท่าที่เกิดขึ้นถึงวันนายอูมาถึงแก่กรรมเท่านั้น ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยแจ้งจำนวนหนี้ที่นายออเดซ์ทำความเสียหายและจะต้องชดใช้ให้แก่จำเลยถึงวันที่นายอูมาถึงแก่กรรม และบังคับให้จำเลยชำระหนี้เฉพาะส่วนที่ค้างจากโจทก์ ให้จำเลยไปจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดิน
จำเลยให้การว่า สัญญาจำนองเป็นการจำนองที่ดินเป็นประกันการทำงานและหนี้สินอื่น ๆ บรรดามีของนายออเดซ์ หมายรวมถึงความผูกพันที่จำเลยและนายออเดซ์จะต้องปฏิบัติกันตามสัญญาจ้างแรงงาน ตราบใดที่ยังไม่ได้บอกเลิกสัญญาจ้างแรงงาน หนี้ซึ่งคู่สัญญาจะต้องปฏิบัติต่อกันตามสัญญาจ้างแรงงานจึงมีอยู่ตลอดเวลา สัญญานี้เป็นสัญญาเกี่ยวกับทรัพย์สินไม่ใช่เฉพาะตัว จึงไม่สิ้นสุดเพราะความตายของผู้จำนอง ทั้งยังเป็นสัญญาจำนองประกันการทำงานอันเป็นหนี้ในอนาคตไม่มีกำหนดเวลาเมื่อไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลย โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิบอกเลิก หากจะบอกเลิกโจทก์จะต้องนำเงินสดจำนวน 300,000 บาทมาวางเป็นประกันแทนที่ดินเสียก่อน หรือมิฉะนั้น โจทก์จะต้องชำระหนี้ที่นายออเดซ์ติดค้าง12,454.02 บาท กับเงินชดเชยที่จำเลยจะต้องจ่ายแก่นายออเดซ์เนื่องจากการเลิกสัญญาจ้างเป็นจำนวน 6 เท่าของเงินเดือนเป็นเงิน 99,000 บาท เสียก่อน
ในชั้นพิจารณาศาลชั้นต้น คู่ความรับว่านายออเดซ์ยังเป็นลูกจ้างจำเลย และโจทก์ได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาค้ำประกันแล้ว นายออเดซ์ได้ชำระเงินจำนวน 12,454.02 บาทตามคำให้การของจำเลยให้แก่จำเลยแล้ว ส่วนเงิน 99,000 บาท เป็นเงินชดเชยที่จำเลยจะต้องจ่ายให้แก่นายออเดซ์ตามกฎหมายแรงงานหากจำเลยจะเลิกจ้างนายออเดซ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองให้แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สัญญาจำนองคดีนี้เป็นการจำนองที่ดินเพื่อประกันการทำงานและหนี้สินของนายอูมาในอนาคต ไม่มีกำหนดเวลา มีลักษณะเป็นการประกันเพื่อกิจการเนื่องกันไปหลายคราว ไม่มีจำกัดเวลาเป็นคุณแก่เจ้าหนี้ ผู้ค้ำประกันอาจเลิกสัญญาได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 699 และสัญญาจำนองรายนี้ได้มีข้อตกลงว่าผู้จำนองจะต้องผูกพันประกันหนี้ตามสัญญาตลอดไป ดังนั้น ถ้าผู้จำนองได้บอกกล่าวเลิกสัญญานั้นแก่เจ้าหนี้แล้ว ผู้จำนองย่อมมีสิทธิที่จะชำระหนี้ซึ่งมีอยู่เพื่อให้สัญญาจำนองระงับสิ้นไป เมื่อโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้จำนองขอชำระหนี้โดยแจ้งความประสงค์เลิกประกันหนี้รายนี้ต่อไป และได้มีการชำระหนี้ซึ่งมีอยู่ในขณะนั้นแล้ว สัญญาจำนองย่อมระงับสิ้นไป จำเลยจะต้องจดทะเบียนถอนจำนองให้โจกท์ ไม่มีเหตุที่โจทก์จะต้องำนเงินสดมาวางแทนการจำนองและเมื่อสัญญาจำนองมิได้มีข้อตกลงว่าผู้จำนองจะต้องรับผิดเกี่ยวกับเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน จึงไม่ผูกพันโจทก์ที่จะต้องรับผิดเกี่ยวกับเงินชดเชยดังกล่าว
พิพากษายืน