แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ผู้ให้เช่านาจะมีสิทธิบอกเลิกการเช่าก่อนสิ้นกำหนดระยะเวลาการเช่าในกรณีที่ผู้เช่าใช้ที่นาเพื่อการอย่างอื่นนอกจากการทำนา โดยมิได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่า ดังที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 มาตรา 32(3) ก็ตามแต่การบอกเลิกก็ต้องปฏิบัติตามมาตรา 35 ซึ่งมีวิธีการบอกเลิกการเช่านาเป็นขั้นตอนตามกฎหมายเพื่อให้คณะกรรมการควบคุมการเช่านาได้พิจารณาก่อนว่ามีเหตุสมควรหรือไม่อย่างไรโดยให้ผู้เช่ามีโอกาสคัดค้านด้วย โจทก์จะถือเอาคำฟ้องเป็นการบอกเลิกการเช่าไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้เช่านาของโจทก์ตามโฉนดเลขที่ 152 ตำบลคลองหกวา สายบนฝั่งใต้ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ทางด้านเหนือ เนื้อที่ 25 ไร่ เพื่อทำนา ครั้นเมื่อประมาณวันที่ 13 หรือ 14 พฤษภาคม 2519 จำเลยได้บังอาจเข้าไปปลูกบ้านลงในที่นาดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต โจทก์ห้ามปราม จำเลยไม่เชื่อฟัง เป็นการผิดสัญญาเช่าเพราะใช้ทรัพย์สินที่ให้เช่าเพื่อการอื่น โจทก์ขอถือเอาคำฟ้องนี้เป็นการบอกเลิกการเช่าในฤดูการทำนาปี พ.ศ. 2519 ขอให้ศาลพิพากษาว่าการเช่านาระหว่างโจทก์จำเลยสิ้นสุดลงในฤดูทำนาปี พ.ศ. 2519 บังคับให้จำเลยรื้อบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกไปห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง เว้นแต่จะเข้าไปเพื่อทำนาตามปกติ ในฤดูทำนาปี พ.ศ. 2519
จำเลยให้การว่าจำเลยได้เช่าที่ดินของโจทก์เพื่อทำนา จำเลยปลูกบ้านอาศัยและเก็บเครื่องมือในการทำนาในที่ดินที่เช่าเพียง 50 ตารางวา มีสิทธิทำได้การบอกเลิกการเช่านา ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ. 2517 มาตรา 32, 35 จะถือเอาคำฟ้องเป็นการบอกเลิกการเช่าไม่ได้ ขอให้ยกฟ้อง
ก่อนวันนัดสืบพยาน จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายเรื่องการบอกเลิกการเช่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24
ศาลชั้นต้นชี้ขาดเบื้องต้นแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ผู้ให้เช่านาจะมีสิทธิบอกเลิกการเช่าก่อนสิ้นกำหนดระยะเวลาการเช่า ในกรณีที่ผู้เช่าใช้ที่นาเพื่อการอย่างอื่นนอกจากการทำนาโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่าดังที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 32(3) แต่การบอกเลิกก็ต้องปฏิบัติตามมาตรา 35 ซึ่งบัญญัติว่า “การบอกเลิกการเช่านาตามมาตรา 32 (1)(2)(3)(4)(5)(6) หรือ (7) ผู้ให้เช่านาต้องแจ้งเป็นหนังสือต่อผู้เช่านาพร้อมทั้งแสดงเหตุแห่งการบอกเลิกการเช่านาและส่งสำเนาหนังสือดังกล่าวต่อประธานคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำอำเภอ
เมื่อได้รับสำเนาหนังสือตามวรรคหนึ่ง ให้ประธานคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำอำเภอแจ้งให้ผู้เช่านาที่ถูกบอกเลิกการเช่านาทราบเพื่อคัดค้านการบอกเลิกการเช่านาต่อคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำอำเภอภายในกำหนดสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากประธานคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำอำเภอ ถ้าผู้เช่าไม่คัดค้านภายในกำหนดเวลา ให้ถือว่าการบอกเลิกการเช่านามีผลเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันดังกล่าว”
ตามบทบัญญัติข้างต้นเห็นได้ว่า วิธีการบอกเลิกการเช่านามีขั้นตอนตามกฎหมายเพื่อให้คณะกรรมการควบคุมการเช่านาได้พิจารณาก่อนว่ามีเหตุสมควรหรือไม่อย่างไร โดยให้ผู้เช่ามีโอกาสคัดค้านด้วย โจทก์จะถือเอาคำฟ้องเป็นการบอกเลิกการเช่าจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
พิพากษายืน