แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องเรียกค่าจ้างขนส่งแร่ดีบุกจากจำเลยเป็นคดีนี้ส่วนจำเลยฟ้องเรียกค่าเสียหายที่เครื่องแยกแร่ตกจากรถของโจทก์ที่รับขนส่ง คดีอยู่ระหว่างพิจารณา และคดีดังกล่าวโจทก์ให้การปฏิเสธความรับผิดอ้างเหตุสุดวิสัย เมื่อสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายที่จำเลยขอหักกลบลบหนี้ยังมีข้อต่อสู้อยู่จำเลยจึงไม่มีสิทธินำมาขอหักกลบลบหนี้กับโจทก์ในคดีนี้ได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 394,410 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่าจำเลยได้ตกลงว่าจ้างโจทก์ขนส่งแร่ดีบุกจากจังหวัดกาญจนบุรีไปจังหวัดภูเก็ต โจทก์รับจ้างขนส่งโดยคิดค่าจ้างและค่าบริการตามที่โจทก์กำหนด โจทก์ได้ขนส่งแร่ดีบุกให้จำเลยตามสัญญาไปจังหวัดภูเก็ตแล้วรวม 44 ครั้ง รวมค่าขนส่งและค่าบริการเป็นเงินทั้งสิ้น 380,160 บาท นอกจากนี้โจทก์ยังได้ตกลงรับจ้างขนส่งเครื่องแยกแร่แม่เหล็กของจำเลย 2 เครื่องจากกรุงเทพมหานครไปจังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างขนส่ง เครื่องแยกแร่แม่เหล็กของจำเลยตกจากรถเสียหาย จำเลยจึงได้ฟ้องศาลขอให้โจทก์ชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 515,926 บาท 40 สตางค์แก่จำเลยตามสำนวนคดีหมายเลขดำที่ 12758/2523 ของศาลแพ่ง ส่วนโจทก์ได้ฟ้องเรียกค่าจ้างขนส่งและค่าบริการในการขนส่งแร่ดีบุกจำนวนเงิน 380,160 บาทเป็นคดีนี้
คดีคงมีปัญหาว่า จำเลยมีสิทธิที่จะขอให้เอาสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายของจำเลยที่มีต่อโจทก์ในคดีหมายเลขดำที่ 12758/2523 มาหักกลบลบหนี้จำนวน 380,160 บาท ที่จำเลยจะต้องชำระให้โจทก์ในคดีนี้ได้หรือไม่ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ในขณะที่จำเลยให้การในคดีนี้ปรากฏว่าคดีหมายเลขดำที่ 12758/2523 ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลแพ่งอยู่และในคดีดังกล่าวโจทก์ได้ให้การปฏิเสธความรับผิดอ้างว่าเครื่องแยกแร่ตกจากรถเพราะเหตุสุดวิสัยและให้การต่อสู้คดีอีกหลายประการ แสดงว่าโจทก์ยังมีข้อต่อสู้ในเรื่องสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายที่จำเลยขอหักกลบลบหนี้อยู่ ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 344 บัญญัติไว้ว่า”สิทธิเรียกร้องใดยังมีข้อต่อสู้อยู่ สิทธิเรียกร้องนั้น ท่านว่าหาอาจจะเอามาหักกลบลบหนี้ได้ไม่ ฯลฯ” ฉะนั้นเมื่อปรากฏว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายที่จำเลยขอหักกลบลบหนี้นี้ยังมีข้อต่อสู้อยู่ดังวินิจฉัยข้างต้น จำเลยจึงไม่มีสิทธินำมาขอหักกลบลบหนี้กับโจทก์ได้ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 1,000 บาท แก่โจทก์