แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาเก็บและจำหน่ายแก๊สบิวเตน (ปกติ)ซึ่งเป็นแก๊สปิโตรเลียมเหลวอันเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงแก่ผู้ใช้รถยนต์โดยมิได้รับใบอนุญาต โดยกระทำผิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2524 เมื่อมีประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องกำหนดชนิดของเหลวต่าง ๆ ที่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงฯ (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2524 ให้ยกเลิกความในลำดับที่ 17 แห่งประกาศฯ ฉบับแรก ดังนี้ บิวเตน (ปกติ)จึงไม่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอีกต่อไป แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดดังที่โจทก์กล่าวในฟ้องจำเลยก็พ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดต้องยกฟ้อง
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำฟ้องประกอบคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายแล้ว พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ประกาศฯ มิใช่กฎหมาย ไม่มีผลลบล้างการกระทำของจำเลยซึ่งอาจเป็นความผิดตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะนั้นได้ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาใหม่ ตามรูปคดี จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า คดีมีปัญหาว่า เมื่อมีประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดชนิดของเหลวต่าง ๆ ที่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิงพุทธศักราช 2474 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2524 ออกใช้บังคับแล้ว จำเลยยังจะมีความผิดอยู่ต่อไปหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า ประกาศกระทรวงมหาดไทย ฉบับดังกล่าวให้ยกเลิกความในลำดับ 17 แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง กำหนดชนิดของเหลวต่าง ๆ ที่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2474 ลงวันที่ 5 มกราคม 2504 เสียแล้ว ฉะนั้น บิวเตน (ปกติ) จึงไม่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิง พุทธศักราช 2474 อีกต่อไป แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง จำเลยก็พ้นจากการเป็นผู้กระทำผิดตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1166/2526 ระหว่าง พนักงานอัยการประจำศาลแขวงพระนครใต้ โจทก์ นายประสิทธิ์ ตระการวนิช จำเลย ฎีกาจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น