คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4024/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยให้สัญญาว่าจะมีน้ำบาดาลให้โจทก์ใช้จนกว่าจะมีน้ำประปาของการประปานครหลวงเข้าถึง ดังนี้ ตราบที่น้ำประปายังเข้าไม่ถึง จำเลยไม่มีสิทธิรื้อถอนการส่งน้ำบาดาล
ผู้เช่าอยู่อาศัยอื่นมิใช่คู่ความในคดี ศาลจะพิพากษาให้จำเลยสูบน้ำบาดาลจ่ายน้ำให้ด้วยไม่ได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 1 จัดการสูบน้ำบาดาลจ่ายน้ำให้โจทก์และผู้เช่าอยู่อาศัยตามปกติจนกว่าการประปานครหลวงจะจัดการจ่ายน้ำเข้ามาแทนที่ จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าสัญญาเช่าตึกแถวไม่ได้ทำกับจำเลยที่ 1 หากแต่ทำกับจำเลยที่ 4 และในสัญญาข้อ 6 ได้ระบุชัดเจนแล้วว่า ค่าใช้จ่ายในการใช้น้ำประปาและไฟฟ้าเป็นหน้าที่ของผู้เช่า ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงมาตรวัดน้ำต้องเปลี่ยนในนามผู้ให้เช่า (จำเลยที่ 4) อีกทั้งการขอวางท่อน้ำประปาที่ขอต่อการประปานครหลวง ก็ไม่ใช่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขอ แต่เป็นจำเลยที่ 2 พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าโจทก์นำสืบโดยจำเลยที่ 1 มิได้นำสืบโต้แย้งได้ความว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ก่อสร้างตึกแถวบนที่ดินของจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 จำเลยที่ 1 เป็นผู้โฆษณาให้มีคนมาเช่าเพื่อจะได้รับประโยชน์จากการเรียกเงินกินเปล่า ก่อนโจทก์เช่า ตัวแทนของจำเลยที่ 1 ได้นำไปดูการก่อสร้างท่อส่งน้ำบาดาลและรับรองว่า จะจัดให้มีน้ำบาดาลใช้จนกว่าจะมีน้ำประปาของการประปานครหลวงเข้าถึง เมื่อโจทก์ตกลงเช่า ตัวแทนของจำเลยที่ 1 ก็เรียกเงินมัดจำการใช้น้ำบาดาลรายละ 300 บาท จากนั้นจำเลยที่ 1ก็เก็บเงินค่าน้ำบาดาลตามมาตรวัดน้ำทุกเดือน จนถึงวันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ได้ตัดน้ำบาดาลโดยขนย้ายเครื่องสูบและอุปกรณ์ต่าง ๆ ออกไปดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งต้องการลูกค้าหรือผู้เช่า เป็นผู้ให้สัญญาในการจัดให้มีน้ำบาดาลส่งเข้าถึงบ้านเช่าที่ก่อสร้างขึ้นรวมทั้งบ้านโจทก์ทั้งสองจนกว่าจะมีน้ำประปาของการประปานครหลวงเข้าถึง แต่ยังไม่ทันจะมีน้ำประปาของการประปานครหลวงเข้าถึง จำเลยที่ 1 ได้รื้อเครื่องสูบและอุปกรณ์ต่าง ๆ ออกไป ทำให้โจทก์ทั้งสองเดือดร้อนและค่าเสียหายเนื่องจากไม่มีน้ำใช้และต้องหาซื้อจากที่อื่น ดังนี้ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ผิดสัญญาและละเมิดสิทธิของโจทก์ทั้งสองโดยตรงที่จำเลยอ้างว่าโจทก์ทั้งสองเป็นผู้ทำสัญญาเช่ากับจำเลยที่ 4 นั้น ก็เป็นเรื่องของสัญญาการเช่าบ้าน หาเกี่ยวกับการใช้น้ำบาดาลไม่ จริงอยู่ตามสัญญาเชาระบุว่าการใช้น้ำประปาและไฟฟ้าเป็นหน้าที่ของผู้เช่า ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงมาตรวัดน้ำต้องเปลี่ยนในนามผู้ให้เช่า แต่นั่นก็เป็นเรื่องการใช้น้ำประปานครหลวง หาเกี่ยวกับการใช้น้ำบาดาลซึ่งจำเลยที่ 1 ให้สัญญาว่าจะมีน้ำบาดาลให้โจทก์ใช้จนกว่าจะมีน้ำประปานครหลวงเข้าถึงไม่ ดังนั้นตราบที่การประปานครหลวงยังเข้าไม่ถึง จำเลยที่ 1 จึงไม่มีสิทธิรื้อถอนการส่งน้ำบาดาลฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในความเห็นของศาลอุทธรณ์แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นซึ่งระบุว่า ให้จำเลยที่ 1 สูบน้ำบาดาลจ่ายน้ำให้โจทก์และผู้เช่าอยู่อาศัยตามปกตินั้น เห็นว่าผู้เช่าอยู่อาศัยมิใช่คู่ความในคดี จึงไม่อาจบังคับให้ได้ คงบังคับให้ได้เฉพาะโจทก์ทั้งสอง

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 จัดการสูบน้ำบาดาลให้โจทก์ทั้งสองตามปกติ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ”

Share