คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5285/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้องนัดจำเลยมาให้การแก้คดีและนัดสืบพยานโจทก์ ต่อมาได้มีการเลื่อน นัดสอบคำให้การ จำเลยและสืบพยานโจทก์ไปอีก แต่เจ้าหน้าที่ผู้พิมพ์รายงานกระบวนพิจารณาพิมพ์วันนัดผิดไปจากที่คู่ความตกลงกันไว้โดยผู้พิพากษามิได้อ่านรายงานกระบวนพิจารณาที่พิมพ์ผิดนั้นให้คู่ความฟังก่อน เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันนัดตามที่เจ้าหน้าที่พิมพ์ถือไม่ได้ว่าโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคหนึ่งอันจะเป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้องได้ โจทก์จึงมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น

ย่อยาว

โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้องและนัดจำเลยทั้งสองมาให้การแก้คดีและนัดสืบพยานโจทก์หลายครั้งจนกระทั่งวันที่ 18 มิถุนายน 2542 ได้มีการเลื่อนนัดสอบคำให้การจำเลยและสืบพยานโจทก์ไปอีกครั้ง ซึ่งตามรายงานกระบวนพิจารณาระบุว่านัดวันที่ 23 สิงหาคม 2542 ครั้นถึงวันนัดไม่มีคู่ความฝ่ายใดมาศาล ศาลชั้นต้นจึงพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นกำหนดวันนัดสอบคำให้การจำเลยและสืบพยานโจทก์ใหม่ แล้วพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่ 18มิถุนายน 2542 ซึ่งพิมพ์ข้อความว่า นัดสอบคำให้การจำเลยและนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 23 สิงหาคม 2542 นั้น น่าจะเป็นวันนัดที่เจ้าหน้าที่ผู้พิมพ์รายงานกระบวนพิจารณาพิมพ์ผิดไปจากที่คู่ความตกลงกันไว้โดยผู้พิพากษามิได้อ่านรายงานกระบวนพิจารณาที่พิมพ์ผิดนั้นให้คู่ความฟังก่อน โดยจะเห็นได้ว่าเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม2542 ไม่ปรากฏว่ามีคู่ความฝ่ายใดมาศาล ทั้งที่คู่ความได้ลงชื่อในรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 18 มิถุนายน 2542 ไว้แล้วทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยทั้งสอง แต่คู่ความทั้งสองฝ่ายคือ โจทก์ จำเลยทั้งสองและทนายจำเลยทั้งสองพร้อมทั้งนายประกันจำเลยที่ 2 กลับมาศาลเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2542 ประกอบกับเหตุผลอื่น ๆ ที่ศาลอุทธรณ์ได้ยกขึ้นวินิจฉัยไว้โดยละเอียดแล้ว ซึ่งศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย เชื่อได้ว่าวันนัดสอบคำให้การจำเลยทั้งสองและนัดสืบพยานโจทก์ที่แท้จริงคือวันที่ 23 กันยายน 2542 เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันที่ 23 สิงหาคม2542 จึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคหนึ่งอันจะเป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้องได้ โจทก์จึงมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น ไม่ใช่ไม่มีสิทธิตามที่จำเลยทั้งสองฎีกา

พิพากษายืน

Share