คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2129/2526

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ที่ดินที่ศาลพิพากษาให้โจทก์จำเลยจัดการแบ่งแยกในคดีนี้คือโฉนดเลขที่ 451 เป็นที่ดินต่างแปลงกับโฉนดเลขที่ 447 ซึ่ง ศาลพิพากษาในอีกคดีหนึ่ง จึงมิใช่คำพิพากษาที่ขัดกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้แบ่งแยกที่ดินโฉนดเลขที่ 451 ตามแผนผังการครอบครองเป็นส่วนสัด ศาลชั้นต้น (ศาลแพ่ง) มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้แบ่งแยกที่ดินตามฟ้อง โจทก์ขอให้เจ้าพนักงานที่ดินรังวัดแบ่งแยกแต่เขตคลองสานได้มีหนังสือแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินทราบว่า ที่ดินส่วนของจำเลยนั้นได้มีคำพิพากษาของศาลชั้นต้น (ศาลแพ่ง) ซึ่งถึงที่สุดตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 9728, 9729 และ 9730/2523 ว่าเป็นทางสาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้ร่วมกันมานานกว่า 10 ปี ไม่อาจรับรองแนวเขตการรังวัดให้ได้ โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ว่า คำพิพากษาต่างกล่าวถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่แบ่งแยกขัดกัน โจทก์ไม่คัดค้านหรือโต้แย้งว่าที่ดินในส่วนที่ขัดกันนี้จะเป็นทางสาธารณประโยชน์แต่ประการใด ขอให้มีคำสั่งว่าจะให้ถือตามคำพิพากษาใด ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า เลขที่โฉนดในภาพถ่ายคำพิพากษาที่แนบมาท้ายคำร้องเป็นคนละแปลงกับคดีนี้ คำพิพากษาดังกล่าวจึงไม่ขัดกัน ให้ยกคำร้อง โจทก์ทั้งสิบสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ตามคำร้องของโจทก์ทั้งสิบสองคนฟังได้ว่าที่ดินที่ศาลพิพากษาให้โจทก์และจำเลยจัดการแบ่งแยกในคดีนี้คือโฉนดเลขที่ 451 ตำบลคลองต้นไทร (บางไส้ไก่เหนือ) อำเภอคลองสาน(บางลำภูล่าง) กรุงเทพมหานคร แต่ที่ดินตามคำพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 4728-4730/2523 ของศาลแพ่ง ซึ่งโจทก์คดีนี้อ้างว่าคำพิพากษาคดีดังกล่าวและคดีนี้ขัดกันนั้นคือโฉนดเลขที่ 447 ตำบลบางลำภูล่าง (บางไส้ไก่ฝั่งเหนือ) อำเภอคลองสาน (บางลำภูล่าง) กรุงเทพมหานคร แสดงว่าที่ดินในคดีนี้และที่ดินในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 4728-4730ของศาลแพ่ง เป็นที่ดินต่างแปลงกัน คำพิพากษาของศาลชั้นต้นคันดังกล่าวจึงมิใช่คำพิพากษาที่ขัดกัน ที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า คำพิพากษาไม่ขัดกันนั้นชอบแล้ว”

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share