คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 554/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ตั้งโรงงานสีข้าวก่อนที่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีแต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยตั้งโรงงานโดยได้รับอนุญาตอยู่แล้ว เพียงแต่จำเลยเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ที่ใช้ในโรงงานเดิมเท่านั้นไม่ถือว่าตั้งโรงงานขึ้นใหม่ ดังนี้ จำเลยจึงไม่ผิดฐานตั้งโรงงานโดยไม่รับอนุญาต

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนี้ตั้งโรงงานคือโรงสีข้าวเล็กโดยใช้เครื่องจักร1 โรง ก่อนได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีตามกฎหมายขอให้ศาลลงโทษตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2482 มาตรา 2, 19 พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2503 มาตรา 7 พระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2482 บังคับแก่โรงงานทุกชนิดในท้องที่บางจังหวัด (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2504 มาตรา 3 และสั่งจำเลยหยุดดำเนินการจนกว่าจะได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมาย

จำเลยให้การปฏิเสธ อ้างว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานแล้วตามทะเบียนเลขที่ ก.491 ร.อ.

ในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยแถลงรับว่า ใบอนุญาตที่ขอให้อำเภอส่งมาเป็นพยานในคดีนี้นั้น เป็นใบอนุญาตสำหรับเครื่องสีเก่าเครื่องเก่าขายให้คนอื่นไปแล้วจึงซื้อเครื่องใหม่แทน จำเลยอาศัยใบอนุญาตเก่านี้สำหรับเครื่องใหม่ จำเลยใช้สถานที่เดิมทำการสีข้าวด้วยเครื่องใหม่นี้

ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมาย พอวินิจฉัยได้แล้วมีคำสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้ววินิจฉัยว่าเครื่องจักรเป็นส่วนสำคัญ ใบอนุญาตนี้ใช้เฉพาะเครื่องสีเก่าที่ขายไปแล้วเท่านั้นจะนำมาใช้เป็นใบอนุญาตสำหรับเครื่องสีใหม่ไม่ได้ จำเลยตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรงงานพ.ศ. 2482 มาตรา 6, 19 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2503 มาตรา 7 พระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2482 บังคับแก่โรงงานทุกชนิดในบางจังหวัด (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2504 มาตรา 3 ให้ปรับจำเลย 300 บาทไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 กับให้จำเลยหยุดดำเนินการจนกว่าจะได้รับอนุญาต

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกาว่า “โรงงาน” นั้น หมายถึงสถานที่ที่ประกอบการค้าหาประโยชน์ จำเลยมิได้ย้ายสถานที่ จึงมิใช่เป็นการตั้งโรงงานใหม่และสถานที่ที่จำเลยซื้อเครื่องจักรใหม่มาแทนเครื่องเก่านั้นได้รับอนุญาตแล้ว

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ มีปัญหาแต่เฉพาะข้อกฎหมาย จึงต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า เดิมจำเลยเปิดโรงงานสีข้าวโดยใช้เครื่องจักรและได้ขึ้นทะเบียนโรงงานไว้แล้วโดยถูกต้องต่อมาจำเลยขายเครื่องจักรเก่า แล้วภายหลังได้ซื้อเครื่องจักรมาใหม่และใช้สถานที่เดิมเปิดทำการสีข้าวอีก โจทก์ฟ้องว่าจำเลยตั้งโรงงานก่อนได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้รับอนุญาตและได้ขึ้นทะเบียนโรงงานไว้แล้วโดยชอบ จำเลยเพียงแต่เปลี่ยนเครื่องจักรที่ใช้ในโรงงานโดยใช้สถานที่เดิม มิใช่จำเลยตั้งโรงงานขึ้นใหม่ จำเลยจึงไม่ได้กระทำผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์ฟ้อง พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นให้ยกฟ้องโจทก์

Share