คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3795/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้คำขอท้ายคำฟ้องจะระบุอ้างแต่พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 โดยไม่ได้อ้างบทมาตรา 3 ไว้ด้วย แต่โจทก์ก็ได้ระบุไว้ที่หน้า คำฟ้องในช่องข้อหาหรือฐานความผิดว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3และตามพระราชบัญญัติดังกล่าวซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 5 มาตราก็มี มาตรา 3 เท่านั้น ที่บัญญัติว่าการกระทำเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ ซึ่งโจทก์ได้บรรยายการกระทำผิดของจำเลยไว้ครบถ้วนตามมาตรา 3 แล้ว จำเลยย่อมเข้าใจดีและไม่หลงต่อสู้ คำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวย่อมมีผลเท่ากับการอ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6)แล้ว จึงเป็นคำฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันออกเช็คสองฉบับ โดยจำเลยที่ 2 ลงชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายและประทับตราของจำเลยที่ 1 โจทก์ได้รับเช็คทั้งสองฉบับนั้นจากผู้มีชื่อเป็นการชำระหนี้ โจทก์นำเช็คดังกล่าวไปขอรับเงิน ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโดยแจ้งว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่าย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว ให้ประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณา

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ให้เรียงกระทงลงโทษ

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คำขอท้ายฟ้องมิได้ระบุมาตรา 3 ไว้ด้วยเท่ากับโจทก์ไม่ได้อ้างบทมาตราที่จะใช้ลงโทษจำเลยและมิใช่เป็นการอ้างฐานความผิดหรือบทมาตราผิด ต้องถือว่าฟ้องโจทก์ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้คำขอท้ายคำฟ้องของโจทก์ระบุอ้างแต่พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497เฉย ๆ โดยไม่ได้อ้างมาตรา 3 ไว้ด้วย กับอ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 ก็ตาม แต่โจทก์ก็ได้ระบุอ้างไว้ที่หน้าคำฟ้องในช่องข้อหาหรือฐานความผิดว่าพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3 และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 196 มีอยู่ทั้งหมด 5 มาตรา มาตราที่บัญญัติว่า การกระทำเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้มีอยู่เฉพาะมาตรา 3 เท่านั้น ในคำฟ้องโจทก์ก็ได้บรรยายการกระทำผิดของจำเลยไว้ชัดแจ้งครบถ้วนตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 แล้ว จำเลยย่อมเข้าใจได้ดีและไม่หลงต่อสู้ เมื่อโจทก์ได้อ้างพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 ไว้ในคำขอท้ายคำฟ้อง อีกทั้งได้ระบุอ้างมาตรา 3 และชื่อพระราชบัญญัติดังกล่าวไว้ที่หน้าคำฟ้องแล้วเช่นนี้ ย่อมมีผลเท่ากับการอ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6) แล้ว คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นคำฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยปัญหาข้ออื่นแล้ว พิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share