คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2523/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจประเภทรับฝากเงินที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถาม หรือเมื่อสิ้นระยะเวลาอันกำหนดไว้ และมีสิทธิ ใช้ประโยชน์เงินนั้นในทางหนึ่งหรือหลายทางได้ ตามที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ.2505 มาตรา 4 ดังนั้นความสัมพันธ์ ระหว่างโจทก์ซึ่งเป็นผู้ฝากเงิน กับจำเลยซึ่งเป็นผู้รับฝากเงินจึงเป็นไป ตามพระราชบัญญัติ การธนาคารพาณิชย์ โดยจำเลยมีฐานะเป็นเพียง ผู้รับฝากเงิน ของโจทก์อย่างธนาคารพาณิชย์เท่านั้น จำเลยหาได้รับ มอบหมาย ให้จัดการทรัพย์สินของโจทก์ตามความหมายที่บัญญัติไว้ ในมาตรา 353 แห่งประมวลกฎหมายอาญาแต่อย่างใดไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด และประกอบกิจการธนาคารพาณิชย์ จำเลยที่ 2 ถึงที่ 11 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยที่ 1 โจทก์เปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันไว้กับจำเลย จำเลยทั้งหมดเป็นผู้ครอบครองและได้รับมอบหมายจากโจทก์ให้จัดการทรัพย์สินของโจทก์ตามกฎหมายและตามประเพณีของธุรกิจการธนาคารพาณิชย์ มีหน้าที่จ่ายเงินตามที่โจทก์สั่งจากจำนวนเงินที่โจทก์มีอยู่ในบัญชีเงินฝากจำเลยที่ 1 ได้ทำผิดหน้าที่ของตนโดยทุจริต ด้วยการเบียดบังหักเงินออกจากบัญชีเงินฝากของโจทก์ชำระหนี้ให้แก่ผู้มีชื่อ อันเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของโจทก์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353, 354, 83

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ทั้งสองฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 เป็นธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจประเภทรับฝากเงินที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถามหรือเมื่อสิ้นระยะเวลาอันกำหนดไว้และมีสิทธิใช้ประโยชน์เงินนั้นในทางหนึ่งหรือหลายทางได้ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505 มาตรา 4 ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์ซึ่งเป็นผู้ฝากเงิน กับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้รับฝากเงินจึงเป็นไปตามพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ โดยจำเลยที่ 1 มีฐานะเป็นเพียงผู้รับฝากเงินของโจทก์อย่างธนาคารพาณิชย์เท่านั้น จำเลยที่ 1 หาได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของโจทก์ตามความหมายที่บัญญัติไว้ในมาตรา 353 แห่งประมวลกฎหมายอาญาแต่อย่างใดไม่ ดังนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 หักทอนบัญชีเงินฝากของโจทก์ผิดไป จึงหาทำให้จำเลยมีความผิดตามที่โจทก์ฟ้องไม่

พิพากษายืน

Share