แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นผู้รับเครื่องเพชรไปแต่ปฏิเสธว่าผู้อื่นเป็นคนเอาไป แสดงว่าจำเลยมีเจตนาเบียดบังเอาทรัพย์ของผู้เสียหายเป็นของตนโดยทุจริต มีความผิดฐานยักยอก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรับแหวนเพชรจากผู้เสียหายไป 2 ครั้งแล้ว จำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาแหวนเพชรไปเป็นของตนเสีย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 91 และให้จำเลยคืนแหวนเพชรแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ให้เรียงกระทงลงโทษ จำคุกกระทงละ 6 เดือน รวมจำคุก 1 ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่เจ้าทรัพย์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้วเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้รับเครื่องเพชรไปจากผู้เสียหาย มิใช่จำเลยพานางนราพรไปติดต่อรับเครื่องเพชรจากผู้เสียหาย การที่จำเลยเป็นผู้รับเครื่องเพชรไป แต่ปฏิเสธว่าผู้อื่นเป็นคนเอาไป แสดงว่าจำเลยมีเจตนาเบียดบังเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปเป็นของตนโดยทุจริต มีความผิดฐานยักยอกตามฟ้อง
พิพากษายืน