แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
องค์การบริหารส่วนจังหวัดจำเลยที่ 1 แต่งตั้งจำเลยที่ 3ถึงที่ 7 เป็นคณะกรรมการตรวจการจ้าง ในการจ้างเหมาโจทก์ก่อสร้างอาคารเพื่อให้การก่อสร้างเป็นไปตามรายการและแบบแปลน จำเลยที่ 3 ถึงที่ 7 ย่อมเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดชอบชดใช้เงินแก่โจทก์ในฐานะส่วนตัว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 โดยนายประเทือง สิทธิพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่จำเลยที่ 2 ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่มอบอำนาจให้นายสมโภค ชัยรัตน์ นายอำเภอสันป่าตอง ทำสัญญาจ้างเหมาโจทก์ก่อสร้างอาคารเรียน โรงเรียนบ้านเหล่าป่าฝาง จำนวน 1 หลัง ราคา 440,000 บาท โดยมีจำเลยที่ 3 ถึงที่ 7 เป็นกรรมการตรวจการจ้าง โจทก์ก่อสร้างอาคารผ่านพ้นงานงวดที่ 1และที่ 2 และรับเงินค่าจ้างงานงวดที่ 1 แล้ว โจทก์ขอรับเงินค่าจ้างงานงวดที่ 2จากจำเลย แต่จำเลยที่ 2 ถึงที่ 7 ไม่ยอมรับงานงวดที่ 2 โดยอ้างว่าโจทก์ใช้เหล็กเสริมคาน บี 3 ผิดขนาดและสั่งให้โจทก์ทำการแก้ไข โจทก์ได้ทำการแก้ไขแล้ว แต่จำเลยร่วมกันไม่ยอมรับงานงวดที่ 2 ทั้งสั่งให้โจทก์หยุดงานก่อสร้างและเลิกสัญญาทั้งที่งานงวดที่ 4 จวนจะเสร็จแล้ว โจทก์ได้ลงทุนก่อสร้างงานงวดที่ 2 – ที่ 4 ไปเป็นเงิน293,720 บาท จำเลยได้รับประโยชน์ จึงมีหน้าที่จ่ายเงินชดเชยให้โจทก์ การแก้ไขซ่อมแซมเสริมเหล็กคาน บี 3 งานจะล่าช้าอย่างมากไม่เกิน 30 วัน โจทก์ยินดีให้จำเลยหักค่าปรับรายวัน วันละ 800 บาท เป็นเงิน 24,000 บาท จำเลยก็ยังต้องรับผิดชดใช้เงินให้โจทก์อีกจำนวน 269,720 บาท โจทก์ทวงถามจำเลยแล้ว จำเลยเพิกเฉยขอให้บังคับจำเลยชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งเจ็ดให้การว่า จำเลยที่ 2 ปฏิบัติราชการตามอำนาจหน้าที่ในตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จึงไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัวโจทก์ผิดสัญญากล่าวคือจะต้องใช้เหล็กเสริมขนาด 19 มิลลิเมตรในการก่อสร้างคาน บี 3 แต่โจทก์ใช้เหล็กขนาด 12 มิลลิเมตรเป็นการผิดขนาด ได้สั่งให้โจทก์แก้ไข โจทก์ไม่ได้แก้ไขให้ถูกต้องตามสัญญา จำเลยที่ 1 จึงบอกเลิกสัญญากับโจทก์ และจ้างบุคคลภายนอกมาก่อสร้างต่อจากโจทก์ การทั้งปวงที่จำเลยปฏิบัติเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตทุกประการจำเลยเลิกสัญญากับโจทก์เป็นผลโดยตรงจากการที่โจทก์ผิดสัญญา ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยที่ 1 ต้องรับผิดใช้ค่าวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้างและค่าแรงงานที่โจทก์เสียไปให้แก่โจทก์ และวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ส่วนประเด็นที่ว่าจำเลยที่ 3 ถึงที่ 7 จะต้องรับผิดด้วยกับจำเลยที่ 1 หรือไม่ ปัญหานี้ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 3 ถึงที่ 7 เป็นคณะกรรมการตรวจการจ้างที่จำเลยที่ 1 แต่งตั้งขึ้นดูแลควบคุมงานก่อสร้างอาคารเรียน โรงเรียนบ้านเหล่าป่าฝางให้เป็นไปตามรายการและแบบแปลน ฉะนั้นจำเลยที่ 3 ถึงที่ 7 ย่อมเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดชอบชดใช้เงินแก่โจทก์ตามฟ้องในฐานะส่วนตัว โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 3 ถึงที่ 7 รับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ได้
พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินจำนวน 269,720 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย