แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ทางพิพาทเป็นทางสาธารณะที่ใช้สัญจรไปมาด้วยความจำเป็นเป็นเวลา 17 ปีเศษ เนื่องจากไม่มีทางอื่นเข้าออกได้อีกดังนี้ นอกจากเป็นการบรรยายฟ้องว่าทางพิพาทเป็นทางสาธารณะแล้ว ยังเป็นทางจำเป็นด้วย จึงเป็นประเด็นแห่งคดีที่ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยว่าทางพิพาทเป็นทางจำเป็นได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น
ที่ดินของโจทก์มีที่ดินแปลงอื่นล้อมอยู่ ไม่มีทางอื่นที่จะใช้ออกไปสู่ทางสาธารณะได้ โจทก์มีสิทธิใช้ทางพิพาทในลักษณะทางจำเป็นได้จำเลยไม่มีอำนาจปิดกั้น
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองเปิดทางพิพาทเพื่อให้โจทก์ที่ 2 ใช้และให้ยกฟ้องคดีสำหรับโจทก์ที่ 1 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์บรรยายฟ้องว่าทางพิพาทเป็นทางสาธารณะซึ่งจำเลยปฏิเสธ แต่ข้อเท็จจริงศาลล่างทั้งสองศาลฟังว่าเป็นทางจำเป็น ข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามทางพิจารณาจึงต่างกับฟ้อง ชอบที่ศาลจะยกฟ้องนั้น เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องไว้ด้วยว่า โจทก์ใช้ทางพิพาทสัญจรไปมาด้วยความจำเป็นเป็นเวลา 17 ปี เศษแล้ว เนื่องจากไม่มีทางอื่นเข้าออกได้อีก จึงมีความหมายถึงว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่าทางพิพาทเป็นทางจำเป็นด้วย จึงเป็นประเด็นแห่งคดีที่ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ “ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น ประเด็นที่จะวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองมีต่อไปว่า โจทก์ที่ 2 มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะได้หรือไม่ ตามข้อฎีกาของจำเลยยอมรับว่า ที่ดินของโจทก์ที่ 2 มีที่ดินแปลงอื่นล้อมอยู่ ตามข้อเท็จจริงที่โจทก์ที่ 2 นำสืบก็ฟังได้ว่าที่ดินที่ล้อมอยู่นี้เป็นของผู้อื่น เมื่อพิเคราะห์ตามรายงานกระบวนพิจารณาที่ศาลชั้นต้นไปเผชิญสืบ ได้ความว่าทางพิพาทเป็นทางซิเมนต์แยกจากซอยรัตนกิจยาวขนานกับข้างบ้านจำเลยมาจดที่ดินของโจทก์ที่ 1 กว้าง 1 เมตร 60 เซนติเมตร หลังบ้านโจทก์ที่ 1 มีทางเดินออกไปสู่ซอยรัตนกิจได้ ทางนี้อยู่ในที่ดินของราชพัสดุ มีสภาพบางตอนสูงบางตอนต่ำติดกับควนดิน ระหว่างปิดทางพิพาทโจทก์ทั้งสองต้องผ่านบ้านคนอื่นออกไปสู่ซอยรัตนกิจ แต่ถ้าใช้ทางพิพาทจะสะดวกกว่าใช้ทางอื่นอันเป็นการยอมรับในเรื่องนี้อยู่แล้ว ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า โจทก์ที่ 2 ไม่มีทางอื่นที่จะสามารถใช้ออกไปสู่ทางสาธารณะได้ โจทก์ที่ 2 จึงมีสิทธิตามกฎหมายที่จะใช้ทางพิพาทในลักษณะทางจำเป็นได้ จำเลยทั้งสองไม่มีอำนาจปิดกั้น ศาลล่างทั้งสองศาลพิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ