แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ขอให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษจำเลยในคดีอื่น แต่ปรากฏว่าในคดีอื่นนั้นจำเลยปฏิเสธโดยมีจำเลยอื่นรับสารภาพ ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลย โดยให้โจทก์แยกฟ้องเป็นคดีใหม่ เมื่อโจทก์แยกฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่แล้ว โจทก์ไม่มีคำขอให้นับโทษจำเลยต่อจากโจทก์ในคดีใหม่ศาลย่อมพิพากษาให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีใหม่ไม่ได
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 289, 83, 80 และนับโทษจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ 293/2511 และริบของกลาง
จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 รับว่าเป็นจำเลยคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83, 80 ให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามาตรา 288, 83 ซึ่งเป็นบทหนักตามมาตรา 90 จำคุกจำเลยที่ 1ที่ 2ที่ 3 คนละ 18 ปี นับโทษจำเลยที่ 1 ที่ 3 ต่อจากคดีแดงที่ 460/2511 และนับโทษจำเลยที่ 2 ต่อจากคดีแดงที่ 332/2511 ส่วนจำเลยที่ 4 ให้ยกฟ้องปล่อยตัวไป ของกลางริบ
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 อุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เชื่อว่าจำเลยทั้งสามกระทำผิดตามฟ้อง แต่การที่ศาลชั้นต้นให้นับโทษจำเลยที่ 1 ที่ 3 ต่อจากคดีแดงที่ 460/2511ซึ่งโจทก์มิได้ขอให้นับโทษต่อจากคดีดังกล่าวนั้น เป็นการพิพากษาเกินคำขอ ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา แม้จำเลยที่ 1 ที่ 3 มิได้อุทธรณ์ในข้อนี้ แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลอุทธรณ์ยกขึ้นวินิจฉัยได้ พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่นับโทษจำเลยที่ 1 และที่ 3 ต่อจากโทษในคดีหมายเลขแดงที่ 460/2511 นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสามฎีกา
โจทก์ฎีกาขอให้นับโทษจำเลยที่ 1 ที่ 3 ต่อจากคดีแดงที่ 460/2511ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 กระทำผิดตามฟ้อง ส่วนที่โจทก์ฎีกาขอให้นับโทษจำเลยที่ 1 ที่ 3 ต่อจากคดีแดงที่ 460/2511 นั้น ข้อเท็จจริงปรากฏว่าคดีนี้โจทก์ขอให้นับโทษจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ต่อจากคดีดำที่ 293/2511 ซึ่งโจทก์ได้ฟ้องจำเลยทั้งสามนี้ร่วมกับจำเลยอื่นในข้อหาอื่นก่อนฟ้องคดีนี้ในการพิจารณาคดีดังกล่าว จำเลยที่ 2 ในคดีนี้กับจำเลยอื่นรับสารภาพส่วนจำเลยที่ 1 และที่ 3 ในคดีนี้กับจำเลยอื่นปฏิเสธ ศาลจึงพิพากษาลงโทษจำเลยที่รับสารภาพเป็นคดีแดงที่ 332/2511ส่วนจำเลยที่ปฏิเสธนั้นศาลได้สั่งจำหน่ายคดีและให้โจทก์ยกฟ้องเป็นคดีใหม่ ซึ่งต่อมาโจทก์ได้แยกฟ้องเป็นคดีดำที่ 378/2511 โดยเมื่อแยกฟ้องแล้วจำเลยเหล่านี้กลับให้การรับสารภาพทุกคน ศาลพิพากษาลงโทษเป็นคดีแดงที่ 460/2511 ในคดีนี้โจทก์มิได้ขอให้นับโทษจำเลยที่ 1 ที่ 3 ต่อจากคดีแดงที่ 460/2511 ซึ่งโจทก์ได้ฟ้องภายหลังที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ จึงวินิจฉัยว่าการที่ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ปฏิเสธโดยให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยที่ปฏิเสธเป็นคดีใหม่นั้น เป็นการสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 และมีผลทำให้คำขอของโจทก์ในคดีนี้ที่ให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีเดิมที่ได้จำหน่ายไปแล้วนั้นสิ้นสภาพไปด้วย เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยที่ปฏิเสธเป็นคดีใหม่แล้ว หากโจทก์มีความประสงค์จะขอให้นับโทษจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำเลยในคดีใหม่ดังกล่าว โจทก์ก็ชอบที่จะยื่นคำร้องขอเช่นนั้นก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อโจทก์มิได้ปฏิบัติดังนี้ก็ไม่อาจนับโทษต่อตามข้อฎีกาของโจทก์ได้ เพราะจะเป็นการพิพากษาเกินคำขอ ฉะนั้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่นับโทษจำเลยที่ 1 ที่ 3 ต่อจากคดีดำที่ 378/2511 หมายเลขแดงที่ 460/2511 จึงชอบด้วยวิธีพิจารณาแล้ว
พิพากษายืน