คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1534/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขุดคลองลัดตรงหัวโค้งมีความกว้างเพียง 15 วาเพื่อใช้ในการลำเลียงแร่ไปสู่เรือกลไฟกลางทะเล โดยปราศจากความรอบคอบ ไม่คำนึงถึงว่าคลองที่จำเลยขุดจะรับน้ำที่ไหลตามคลองเดิมได้เพียงพอหรือไม่ ถึงฤดูมรสุมในระยะที่เกิดเหตุฝนตกหนักหลายวันติดต่อกัน ทั้งคลื่นลมในทะเลแรงกว่าปกติคลองที่จำเลยขุดไม่อาจรับน้ำที่ไหลเชี่ยวแรงได้เพียงพอ เป็นเหตุให้น้ำดันเขื่อนไม้ที่จำเลยทำไว้พังและเซาะที่ดินของโจทก์พังกลายสภาพเป็นทะเล ดังนี้ เป็นผลโดยตรงจากการขุดคลองลัดของจำเลย จำเลยต้องรับผิดในความเสียหายของโจทก์

ย่อยาว

คดีทั้งสองสำนวนนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อราวกลางปี พ.ศ. 2507 จำเลยขุดคลองลัดในที่ดินของนายน้อม เชาวลิต เชื่อมระหว่างคลองท่าศาลากับทะเลเพื่อใช้เรือขนแร่ไปส่งเรือกลไฟกลางทะเล คลองลัดที่จำเลยขุดนั้นคันลำคลองตอนเหนือเป็นแนวตรง กระแสน้ำไหลพุ่งเข้าไปในคลองลัดเป็นแนวโค้ง กระแสน้ำในลำคลองท่าศาลาไปออกปากน้ำเดิมไหลอ่อน แต่ไหลเข้าลำคลองลัดแรงกระแทกคลองฝั่งด้านใต้ เขื่อนไม้ที่จำเลยทำไว้พังที่ดินของโจทก์พังและสิ่งปลูกสร้างหลายอย่างได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย

จำเลยให้การว่า ที่ดินตามฟ้องของนายวัฒน์ นายแมน และนายติ้นวันโจทก์ไม่ใช่ของโจทก์ทั้งสาม นายติ้นวันโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่มีสิทธิในที่ดินตามกฎหมายจำเลยขุดคลองพิพาทตามคำสั่งของนายอำเภอซึ่งเป็นคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมาย จำเลยกระทำไปโดยสุจริตไม่เป็นละเมิด เหตุที่ดินพังหายไปเนื่องจากเกิดมรสุมพายุและคลื่นซัดอย่างแรง เป็นเหตุสุดวิสัย จำเลยไม่ต้องรับผิด

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้นายวัฒน์ นายแมนโจทก์ 20,000 บาท ให้นายติ้นวันโจทก์ 51,000 บาท

จำเลยอุทธรณ์ว่าปากคลองพังเพราะภัยธรรมชาติอันไม่อาจคาดคิดจำเลยไม่ต้องรับผิด

นายวัฒน์ นายแมนโจทก์อุทธรณ์ขอเพิ่มค่าเสียหายเป็น 60,000 บาท

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้แก่นายวัฒน์นายแมนโจทก์เป็นเงิน 40,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คลองท่าศาลาตรงที่จำเลยขุดคลองลัดมีความกว้างประมาณ 2 เส้น มีรูปโค้งเป็นข้อศอกหักลงไปทางทิศใต้ จำเลยขุดคลองลัดตรงหัวโค้งทำให้น้ำในคลองท่าศาลาไหลไปตามคลองที่จำเลยขุดเป็นส่วนใหญ่ จำเลยขุดคลองลัดมีความกว้างเพียง 15 วา โดยปราศจากความรอบคอบไม่คำนึงถึงว่าคลองที่จำเลยขุดรับน้ำที่ไหลมาตามคลองท่าศาลาได้เพียงพอหรือไม่ถึงฤดูมรสุมในระยะที่เกิดเหตุฝนตกหนักหลายวันติดต่อกัน ทั้งคลื่นลมในทะเลก็แรงกว่าฤดูปกติ คลองที่จำเลยขุดไม่อาจรับน้ำที่ไหลเชี่ยวแรงได้เพียงพอ เป็นเหตุให้น้ำดันเชื่อนด้านใต้พังและเซาะที่ดินของนายน้อมและของโจทก์ทั้งสามพัง เป็นผลโดยตรงจากการขุดคลองลัดของจำเลยจำเลยต้องรับผิดในความเสียหายของโจทก์

พิพากษายืน

Share