คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1993/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยฎีกาว่า จำเลยอุทธรณ์เรื่องโจทก์ที่ 2 มิได้มอบอำนาจให้โจทก์ที่ 1 ฟ้องคดีเพราะหนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องปลอม แต่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยให้ ข้อต่อสู้นี้ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ในชั้นชี้สองสถานและจำเลยมิได้โต้แย้งไว้ ถือได้ว่าเรื่องอำนาจฟ้องไม่เป็นประเด็นในคดีแล้ว จึงไม่จำต้องวินิจฉัย
ฟ้องโจทก์บรรยายถึงค่าเสียหายว่ารถยนต์ของโจทก์ได้รับความเสียหายปรากฏตามสำเนาบิลเงินสดค่าซ่อมท้ายฟ้องเป็นเงิน26,730 บาทเท่านั้น แต่บิลเงินสดดังกล่าวแสดงรายการค่าซ่อม และเปลี่ยนอะไหล่รวมทั้งราคาแต่ละรายการไว้ชัดแจ้งเพียงพอที่จำเลยจะเข้าใจได้ดีแล้ว จึงไม่เคลือบคลุม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ 1, ที่ 2 เป็นสามีภริยากันโดยมิได้จดทะเบียนสมรสโจทก์ที่ 2 มอบอำนาจให้โจทก์ที่ 1 ฟ้องคดีโจทก์ทั้งสองเป็นเจ้าของรถยนต์เลขทะเบียน 9ข-9552 กรุงเทพมหานคร จำเลยเป็นเจ้าของและผู้ครอบครองดูแลรถยนต์เลขทะเบียน 1ข-0044 กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2521 เวลาประมาณ 21.45 นาฬิกา จำเลยได้รับรถยนต์ของจำเลยแล่นมาตามถนนตะนาวจากบริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อเสือมุ่งหน้าไปทางสี่แยกคอกวัวด้วยความเร็วสูงกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังครั้นถึงบริเวณปากตรอกตึกดิน รถยนต์ของจำเลยได้ชนรถยนต์ของโจทก์ซึ่งจอดอยู่ริมถนน เป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์ได้รับความเสียหายปรากฏตามสำเนาบิลเงินสดค่าซ่อมท้ายฟ้องเป็นเงิน 26,730 บาท รถเสื่อมราคา 10,000 บาท เสียค่าซ่อม 45 วัน โจทก์ทั้งสองต้องจ้างรถแท็กซี่ติดต่อธุรกิจวันละ 150 บาท เป็นเงิน 6,750 บาท รวมค่าเสียหาย 43,480 บาท ดอกเบี้ยนับแต่วันละเมิดถึงวันฟ้องอีก 1,087 บาท โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายและดอกเบี้ยจำนวนดังกล่าวและดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 43,480 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ

จำเลยให้การว่า โจทก์ที่ 2 ไม่ได้มอบอำนาจให้โจทก์ที่ 1 ฟ้องคดีนี้ หนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องปลอม จำเลยขับรถยนต์โจทก์จริงแต่มิได้เสียหายมากมายดังฟ้อง หากเสียหายค่าซ่อมก็ไม่เกิน 9,000 บาท และรถไม่เสื่อมราคาใช้เวลาซ่อมไม่เกิน 10 วัน ค่าเช่ารถแท็กซี่ไม่เกิน 100 บาทต่อวัน ค่าเสียหายอย่างมากไม่เกิน 10,000 บาท นอกจากนั้นจำเลยให้การว่าคำฟ้องไม่ระบุให้ชัดเจนว่าเสียหายอย่างไร เท่าไรจึงเคลือบคลุม

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ 22,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2521 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยอุทธรณ์เรื่องโจทก์ที่ 2 มิได้มอบอำนาจให้โจทก์ที่ 1 ฟ้องคดีเพราะหนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องปลอม แต่ศาลอุทธรณ์ไม่รับเป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่า เหตุที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวก็เพราะศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดปัญหานั้นให้เป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ และจำเลยมิได้โต้แย้งกรณีจึงถือได้ว่าเรื่องอำนาจฟ้องดังกล่าวไม่เป็นประเด็นในคดีแล้ว และโจทก์ไม่จำต้องสืบพยานในเรื่องนี้ ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์จำเลยดังกล่าวชอบแล้ว

ที่จำเลยฎีกาว่าคำฟ้องเคลือบคลุมเพราะมิได้ระบุว่ารถยนต์ของโจทก์เปลี่ยนอะไหล่ชิ้นใด ราคาเท่าใด และซ่อมแซมส่วนไหนราคาเท่าใด เห็นว่า โจทก์ได้เสนอบิลเงินสดค่าซ่อมรถยนต์ของโจทก์มาท้ายฟ้อง บิลเงินสดดังกล่าวแสดงรายการค่าซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่รวมทั้งราคาแต่ละรายการไว้ชัดแจ้งเพียงพอที่จำเลยจะเข้าใจได้ดีแล้ว คำฟ้องของโจทก์เรื่องค่าเสียหายไม่เคลือบคลุม

พิพากษายืน

Share