แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีอยู่ในอำนาจศาลทหาร เมื่อศาลทหารได้สั่งคำร้องเรื่องขอคืนของกลางที่สั่งริบไปแล้ว และสั่งไม่รับอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวของผู้ร้อง ผู้ร้องจะอุทธรณ์คำสั่งของศาลทหารดังกล่าวไปยังศาลอุทธรณ์อันเป็นศาลพลเรือนตามมาตรา198 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาไม่ได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 6 (ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์) ขอให้ลงโทษฐานร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลมณฑลทหารบกที่ 6 (ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์)พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ในข้อหาลักทรัพย์และให้ริบรถยนต์ของกลาง ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้ร้องโดยอ้างว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของรถยนต์ของกลาง และผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด ศาลสั่งว่าผู้ร้องยื่นคำร้องเกิน 1 ปี หลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง ศาลมณฑลทหารบกที่ 6 (ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์)สั่งว่าเป็นคำสั่งของศาลทหาร คู่ความจะอุทธรณ์ไม่ได้ ไม่รับอุทธรณ์ของผู้ร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกอุทธรณ์ของผู้ร้อง โดยวินิจฉัยว่าศาลอุทธรณ์เป็นศาลพลเรือนไม่มีอำนาจที่จะรับอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้องในการที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 6 (ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์)ไม่รับอุทธรณ์ของผู้ร้องไว้พิจารณา
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำสั่งของศาลมณฑลทหารบกที่ 6(ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์) ที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ของผู้ร้องนั้นเป็นคำสั่งของศาลทหาร ผู้ร้องจะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์ซึ่งเป็นศาลพลเรือนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 198 ทวิไม่ได้
พิพากษายืน