คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 726/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ได้ออกตรวจท้องที่ตามปกติและได้พบเลื่อยวงเดือน 2 ใบ ของ ส. ซึ่งจำเลยเชื่อว่าเป็นเครื่องมือที่มีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ จึงยึดไว้เป็นของกลางแล้วจำเลยเรียกเอาเงิน 500 บาทจาก ส. เป็นการไถ่ใบเลื่อยคืน ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกอีก 1 คน ซึ่งยังมิได้ตัวมาฟ้องเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ มีหน้าที่สืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดกฎหมายเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2522 จำเลยได้ตรวจพบและยึดเลื่อยวงเดือน 2 ใบซึ่งสงสัยว่าเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดพระราชบัญญัติป่าไม้เป็นของกลางโดยมีนายส่วยแสดงตัวเป็นเจ้าของ จำเลยกับพวกได้เรียกเอาเงินจากนายส่วย 500 บาท แล้วคืนเลื่อยของกลางให้นายส่วยไปซึ่งเป็นการกระทำโดยมิชอบและโดยทุจริตขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, 157, 83 และนับโทษจำเลยต่อจากคดีอื่นด้วย

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามมาตรา 157, 83จำคุกจำเลยคนละ 2 ปี และให้นับโทษต่อจากคดีอื่นตามขอ

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองเป็นเจ้าพนักงานตำรวจได้ออกตรวจท้องที่และได้พบเลื่อยวงเดือน 2 ใบของนายส่วยซึ่งจำเลยทั้งสองเชื่อว่าเป็นเครื่องมือที่มีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ซุกซ่อนไว้ในห้วย จึงยึดไว้เป็นของกลางแล้วจำเลยทั้งสองเรียกเอาเงิน500 บาทจากนายส่วย เป็นค่าไถ่ใบเลื่อยคืน ดังนี้ จำเลยจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ดังที่จำเลยฎีกาหรือไม่ เห็นว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 บัญญัติว่า “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตต้องระวางโทษ ฯลฯ” ตามบทบัญญัติมาตรานี้มีความมุ่งหมายที่จะเอาโทษแก่เจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ฉะนั้น การที่จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าพนักงานออกไปปฏิบัติงานในหน้าที่ได้พบเลื่อยวงเดือน 2 ใบของนายส่วยซึ่งซุกซ่อนไว้ในห้วยผาจีจึงยึดไว้แต่มิได้ดำเนินการตามหน้าที่กลับเรียกเอาเงินจากนายส่วยผู้เป็นเจ้าของเป็นค่าไถ่ใบเลื่อยคืน การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157แล้ว ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาคดีมา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

พิพากษายืน

Share