คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1310/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สำนวนคดีเรื่องอื่นเป็นพยานเอกสารที่คู่ความมีสิทธิอ้างอิงเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนข้ออ้างหรือข้อเถียงของตนได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90
โจทก์อ้างสำนวนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 3645/2520 ของศาลแขวงธนบุรีเป็นพยานทั้งสำนวน ซึ่งมีคำเบิกความของนางสาว บ. อยู่ในสำนวนนั้นด้วยศาลรับฟังคำเบิกความของนางสาว บ. ในสำนวนคดีอาญาดังกล่าวประกอบคำพยานโจทก์ ในคดีนี้ได้ เพราะถือว่าโจทก์ได้ระบุอ้างคำเบิกความของนางสาว บ. ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา88,90 แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เข้าทำงานเป็นลูกจ้าง ต่อมาจำเลยให้โจทก์ลาออกจากงานโดยมิใช่ความผิดของโจทก์ จำเลยไม่จ่ายค่าจ้างประจำเดือนพฤศจิกายน 2519 และเงินเปอร์เซ็นต์จากการขายสินค้าซึ่งโจทก์มีสิทธิจะได้รับแก่โจทก์ จึงขอให้บังคับจำเลยใช้เงินดังกล่าวแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์ออกจากงานเพราะยักยอกทรัพย์ของจำเลยจึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างประจำเดือนพฤศจิกายน 2519 และจำเลยไม่เคยตกลงให้เงินเปอร์เซ็นต์แก่โจทก์ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าจ้างแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนเท่าที่โจทก์ชนะคดี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาตามฎีกาจำเลยที่ว่าโจทก์มิได้ระบุอ้างคำเบิกความของนางสาวบุญยืน ศรีนันทวงษ์ ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 3645/2520 ของศาลแขวงธนบุรีเป็นพยานต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87, 88 จึงรับฟังคำเบิกความของนางสาวบุญยืนไม่ได้นั้น ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า โจทก์ได้อ้างสำนวนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 3645/2520 ของศาลแขวงธนบุรีเป็นพยานทั้งสำนวนซึ่งมีคำเบิกความของนางสาวบุญยืนอยู่ในสำนวนนั้นด้วย เป็นการถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88, 90 แล้ว สำนวนคดีอาญาของศาลแขวงธนบุรีดังกล่าวเป็นพยานเอกสารที่คู่ความมีสิทธิอ้างอิงเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนข้อเถียงของตนได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ดังนั้น คำเบิกความของนางสาวบุญยืนในสำนวนคดีอาญาดังกล่าวจึงรับฟังประกอบคำพยานโจทก์ในคดีนี้ได้

พิพากษายืน

Share