คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤติการณ์ที่แสดงว่าเป็นตัวการเชิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นบริษัทจำกัด จำเลยที่ 2 เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 3 เป็นผู้จัดการของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 เป็นตัวการ จำเลยที่ 2 แสดงต่อประชาชนว่าเป็นตัวแทนจำเลยที่ 1 ในการจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ โจทก์ได้ซื้อรถยนต์เบนซ์ 1 คันจากจำเลยที่ 2 ชำระเงินครบถ้วนแล้ว จึงขอให้จำเลยที่ 1จดทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าวโอนให้โจทก์

จำเลยที่ 1 ให้การว่า ไม่เคยตั้งหรือแสดงออกว่า จำเลยที่ 2เป็นตัวแทนจำเลยที่ 2 เป็นเพียงลูกค้า จำเลยที่ 1 ขายรถยนต์ให้จำเลยที่ 2โจทก์ไม่มีนิติสัมพันธ์กับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ไม่มีส่วนรู้ในการที่จำเลยที่ 2ที่ 3 ซื้อขายรถยนต์พิพาท

จำเลยที่ 2 ที่ 3 ให้การว่า เป็นเพียงตัวแทนของจำเลยที่ 1 จำหน่ายรถยนต์ให้โจทก์ จึงไม่ต้องรับผิดเพียงใด

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ซื้อรถยนต์พิพาทจากจำเลยที่ 2 ในราคา 750,000 บาท จำเลยที่ 2 มอบรถยนต์พิพาทให้โจทก์และได้รับชำระราคาครบถ้วนแล้ว จำเลยที่ 2 รับรถเบนซ์เก๋งของจำเลยที่ 1ไปจำหน่ายประมาณ 10 คัน คดีมีปัญหาสู่ศาลฎีกาว่า จำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 1 หรือไม่ โจทก์อ้างตัวเองและมีนายอัมพรนางเสงี่ยมผู้ถือหุ้นและสมุหบัญชีของจำเลยที่ 2 และเป็นภรรยาจำเลยที่ 3นายสมพงษ์และพันตำรวจโทอุดมเป็นพยานเบิกความประกอบกันว่าเมื่อกลางปี 2517 นายระวีผู้จัดการฝ่ายขายต่างจังหวัดของจำเลยที่ 1ไปติดต่อให้จำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ตกลงจำเลยที่ 1 ส่งรถยนต์เบนซ์เก๋งให้จำเลยที่ 2 ขาย โดยจำเลยที่ 2 ออกเช็คเท่าจำนวนราคารถแต่ละคันให้จำเลยที่ 1 ไว้เป็นประกัน จำเลยที่ 2โฆษณาและแสดงต่อสาธารณะชนว่าเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 โดยติดตั้งป้ายเครื่องหมายรถยนต์เบนซ์ซึ่งมีตราเป็นรูปดาวสามแฉกอยู่ในวงกลมและเขียนข้อความโฆษณาว่า “ห้างหุ้นส่วนจำกัดเชียงใหม่ ฟ.อินทราหัตถกิจผู้แทนจำหน่ายรถเบนซ์จากบริษัทธนบุรีพานิช จำกัด ภาคเหนือ” ไว้ที่หน้าห้างจำเลยที่ 2 คนผ่านไปมาแลเห็นได้ชัด และภายในห้างจำเลยที่ 2 มีรถยนต์เบนซ์เก๋งใหม่ยังไม่มีป้ายทะเบียนจอดแสดงไว้ให้ดูหลายคันตามภาพถ่ายหมาย จ.2 คนทั่วไปเชื่อว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 เมื่อโจทก์เข้าไปติดต่อขอซื้อ จำเลยที่ 2 ก็แจ้งให้ทราบว่าเป็นรถยนต์ซึ่งจำเลยที่ 1 ส่งมาให้จำเลยที่ 2 ผู้เป็นตัวแทนจำหน่าย เคยจำหน่ายไปหลายคันแล้ว และได้เอากระดาษที่หัวกระดาษมีข้อความชื่อห้างจำเลยที่ 2 เป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์ซีเดสเบนซ์ เขตเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน มาเขียนราคารถยนต์เบนซ์เก๋งชนิดต่าง ๆ ให้โจทก์ดูตามเอกสารหมาย จ.1 โจทก์พอใจรถยนต์พิพาทจึงต่อรองราคาและซื้อไป โดยจำเลยที่ 2 บอกว่าเมื่อได้รับชำระราคาครบถ้วนแล้วจะให้จำเลยที่ 1 โอนรถยนต์พิพาทให้ แต่จำเลยที่ 1ไม่ยอมโอนให้โจทก์ทั้ง ๆ ที่จำเลยที่ 2 ได้รับชำระราคาครบถ้วนและแจ้งให้จำเลยที่ 1 โอนแล้ว นอกจากนี้นายสาวิทย์พยานจำเลยที่ 1 พนักงานขายรถของจำเลยที่ 1 ยังเบิกความว่า จำเลยที่ 2 ใช้เครื่องหมายรถยนต์เบนซ์ติดที่หน้าห้างจำเลยที่ 2 และโฆษณาว่าเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนซ์ของจำเลยที่ 1 ด้วย และนายวีระก็ทราบ ที่พยานเบิกความว่าไม่ได้แจ้งเรื่องให้จำเลยที่ 1 ทราบ เพราะไม่มีหน้าที่นั้น ไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อถือเนื่องจากการโฆษณาเช่นนั้นอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยที่ 1มาก ศาลฎีกาเชื่อว่า นายสาวิทย์บอกให้จำเลยที่ 1 ทราบแล้ว และนายพากเพียรผู้จัดการทั่วไปของบริษัทจำเลยที่ 1 เบิกความว่า โดยปกติจำเลยที่ 1 จะไม่โอนทะเบียนรถยนต์ที่ขายให้แก่ผู้ที่ซื้อไปขายต่อ เพราะผู้ซื้อไม่ยอมเนื่องจากผู้ซื้อจะต้องเสียค่าโอนเมื่อขายให้แก่ประชาชนและประชาชนที่จะมาซื้ออาจเข้าใจผิดว่าเป็นรถยนต์ใช้แล้ว เมื่อผู้ซื้อขายต่อได้แล้วก็จะขอให้จำเลยที่ 1 โอนทะเบียนรถยนต์ให้แก่ประชาชนโดยตรงซึ่งไม่ต้องเสียค่าโอนแก่ทางราชการ เห็นว่าการที่จำเลยที่ 1 ยอมปฏิบัติเช่นนี้ เป็นเหตุให้ประชาชนเข้าใจว่าผู้ขายเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 ได้พยานจำเลยที่ 1 ตามที่กล่าวมาจึงเจือสมพยานโจทก์ให้เชื่อได้ว่าจำเลยที่ 1รู้แล้วยอมให้จำเลยที่ 2 เชิดตัวเขาเองออกแสดงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1ที่จำเลยที่ 1 นำสืบว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นเพียงลูกค้าซื้อรถยนต์ไปขายต่อไม่ใช่ตัวแทนของจำเลยที่ 1 ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดจดทะเบียนและโอนรถยนต์พิพาทให้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตเสมือนว่า จำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนของตน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821

พิพากษากลับ ให้จำเลยที่ 1 จดทะเบียนรถยนต์เมอร์ซีเดสเบนซ์เอส อี สี – 860 เลขเครื่อง 008566 ที่แผนกทะเบียนรถยนต์กองทะเบียนกรมตำรวจ แล้วโอนทะเบียนให้โจทก์ ถ้าจำเลยที่ 1 ไม่ปฏิบัติให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยที่ 1

Share