แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนว่าจำเลยนำหนังสือเดินทางปลอมและเช็คเดินทางปลอมไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงเทพจำกัด สาขาราชเทวีในคราวเดียวกัน เพื่อขอแลกเงินตามเช็คเดินทางปลอมนั้น เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2523 เวลากลางวันจำเลยได้กระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกระทง คือ
ก. จำเลยได้ทำปลอมหนังสือเดินทางของนายแบร์รี่ เควิน เฮสตี้ ชาวออสเตรเลียและได้ปลอมเช็คเดินทางต่างประเทศของธนาคารมีชื่อแห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลียรวม 10 ฉบับคิดเป็นเงินไทย 23,880 บาท อันเป็นตั๋วเงินของนายแบร์รี่ เควิน เฮสตี้จำเลยได้ลงลายมือชื่อเป็นนายแบร์รี่ เควิน เฮสตี้ ในช่องเซ็นชื่อต่อหน้าของผู้เบิกเงินด้านหน้าเช็คเดินทางทั้ง 10 ฉบับ เพื่อให้นางสาวนพพรพนักงานของธนาคารกรุงเทพจำกัด สาขาราชเทวี หรือผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าจำเลยคือนายแบร์รี่ เควิน เฮสตี้ ในการไปขอแลกเงินตามเช็คจากธนาคารดังกล่าว
ข. จำเลยโดยทุจริต แสดงตนเป็นนายแบร์รี่ เควิน เฮสตี้ นำหนังสือเดินทางปลอมและเช็คเดินทางต่างประเทศปลอมดังกล่าวในข้อ ก. แสดงต่อนางสาวนพพร เพื่อขอแลกเงินตามเช็คเดินทางปลอมนั้น นางสาวนพพรเชื่อว่าเป็นความจริงจึงจ่ายเงินของธนาคารกรุงเทพจำกัด สาขาราชเทวี ให้จำเลยไป 23,880 บาท
การกระทำของจำเลยตามข้อ ก.และข. น่าจะเกิดความเสียหายแก่นายแบร์รี่ เควิน เฮสตี้ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด นางสาวนพพร ฯลฯ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 266(4), 268, 341, 342(1) สั่งให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน 23,880 บาท และนับโทษต่อจากโทษในอีกคดีหนึ่ง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 266(4), 268, 341, 342(1) จำคุกฐานใช้หนังสือเดินทางปลอมและฐานใช้เช็คเดินทางปลอมเป็นสองกรรมให้คืนหรือใช้เงินแก่ผู้เสียหาย และให้นับโทษต่อ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าตามคำบรรยายฟ้องจำเลยกระทำผิดฐานใช้หนังสือเดินทางปลอมกับใช้เช็คเดินทางปลอม ในคราวเดียวกันในการขอแลกเงินจึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษฐานใช้เช็คเดินทางปลอมซึ่งเป็นบทหนัก
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาว่าการกระทำผิดของจำเลยในข้อหาใช้หนังสือเดินทางปลอมกับข้อหาใช้เช็คเดินทางปลอมเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมต่างกัน เห็นว่าการกระทำผิดของจำเลยดังกล่าวโจทก์บรรยายฟ้องไว้ในข้อ ข. มีความหมายชัดเจนว่า จำเลยนำหนังสือเดินทางปลอม และเช็คเดินทางปลอมไปแสดงต่อนางสาวนพพรเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงเทพ จำกัดสาขาราชเทวี ในคราวเดียวกัน เพื่อขอแลกเงินตามเช็คเดินทางปลอมนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่า การกระทำผิดของจำเลยในกรณีนี้เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
พิพากษายืน