แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นนั่งพิจารณาคดีไม่ครบองค์คณะและจำเลยมีโอกาสบริบูรณ์ที่จะคัดค้านได้ตั้งแต่ในขณะที่ศาลชั้นต้นกำลังดำเนินกระบวนพิจารณาอยู่นั้น แต่จำเลยละเลยเสีย มิได้โต้แย้งคัดค้านในเวลาอันสมควร ถือได้ว่าจำเลยสละสิทธินั้นแล้ว จะยกขึ้นโต้แย้งในชั้นฎีกาไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 938/2472,535/2480)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297
จำเลยให้การว่าได้ทำร้ายผู้เสียหายจริงแต่เพื่อป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยตีผู้เสียหายฝ่ายเดียว พิพากษาว่ามีความผิดตามฟ้องจำคุก 6 ปี จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวน ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 4 ปี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาเฉพาะในปัญหาข้อกฎหมายที่ว่า ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีนี้ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อพระธรรมนูญศาลยุติธรรมมาตรา 23 เพราะมีผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาแต่เพียงนายเดียวเท่านั้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยมีโอกาสโดยบริบูรณ์ที่จะคัดค้านการที่ผู้พิพากษาได้ขึ้นนั่งพิจารณาคดีนี้โดยไม่ครบองค์คณะแล้วตั้งแต่ในขณะที่ศาลชั้นต้นกำลังดำเนินกระบวนพิจารณาอยู่ต่อหน้าจำเลยการที่จำเลยละเลยเสีย มิได้โต้แย้งคัดค้านในเวลาอันสมควรย่อมถือได้ว่าจำเลยได้สละสิทธินั้นแล้ว จำเลยเพิ่งมายกขึ้นโต้แย้งต่อเมื่อคดีได้ล่วงเลยมาจนถึงขั้นนี้ (ฎีกา) แล้วย่อมไม่ได้ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 938/2472 และ 535/2480
พิพากษายืน