คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2719/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองที่ผู้ประสงค์จะทำพินัยกรรมมิได้ยื่นคำร้องแสดงความจำนงตามระเบียบก็ดี ปลัดอำเภอผู้จัดทำพินัยกรรมไม่ได้เขียนข้อความในวันเปิดทำงานตามปกติก็ดีก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงความสมบูรณ์ของพินัยกรรม เมื่อเอกสารนั้นมีรายการถูกต้องครบถ้วนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1658 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว ถือได้ว่าเป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ จำเลย กับนายทองอินและพระภิกษุสมใจเป็นบุตรของนายแสนนางจันที เมื่อนางจันทีและนายแสนตาย เรือน 2 หลังยุ้งข้าว 1 หลัง ที่บ้าน 1 แปลง ที่สวน 1 แปลง เป็นมรดกตกทอดมายังทายาทชั้นบุตร จำเลยได้ไปยื่นคำร้องขอรับโอนมรดกทรัพย์ดังกล่าว อ้างว่า เป็นทรัพย์ที่บิดายกให้โดยพินัยกรรม โจทก์คัดค้านเพราะการทำพินัยกรรมไม่สมบูรณ์ จึงขอให้จำเลยแบ่งทรัพย์รวมราคา 20,000 บาทเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กัน ตกได้แก่โจทก์ 1 ส่วน ถ้าแบ่งไม่ตกลงให้ขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกัน ขอให้ทำลายพินัยกรรมและทำลายหนังสือรับรองการทำประโยชน์

จำเลยให้การว่า นายแสนนางจันทียกที่นา 1 แปลง ทรัพย์หมาย ก.อันดับ 4 ให้จำเลยด้วยวาจาแล้วครอบครองยึดถือเป็นของตนตลอดมาแต่ผู้เดียว โจทก์หรือทายาทอื่นไม่เคยครอบครองถือสิทธิร่วมกับจำเลยทรัพย์หมาย ก.อันดับ 1,2 นายแสนทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองยกให้จำเลย และยกทรัพย์หมาย ก. อันดับ 3 ให้พระภิกษุสมใจ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ในขณะที่นายแสนเจ้ามรดกยังมีชีวิตอยู่ได้ทำพินัยกรรมขึ้นตามแบบเอกสารฝ่ายเมือง ณ ที่ว่าการอำเภอบรบือจริง พินัยกรรมสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1658ส่วนทรัพย์อันดับ 4 นายแสนได้ยกให้แก่จำเลยไว้ก่อนตาย พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าพินัยกรรมขัดต่อกฎหมายไม่สมบูรณ์

ศาลฎีกาวินิจฉัย ข้อเท็จจริงในข้อนี้ฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2511 ซึ่งเป็นวันอาทิตย์หยุดราชการ นายอดิศรปลัดอำเภอโทอำเภอบรบือ ได้นำนายแสนกับนายเหวอะมาที่ที่ว่าการอำเภอบรบือ นายอดิศรได้เรียกหาแบบพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองจากนายบุญคงเสมียนตรา นายบุญคงได้พิมพ์ตามแบบให้ 2 ชุด นายอดิศรได้จัดทำพินัยกรรมเขียนกรอกข้อความตามที่นายแสนขอให้ทำและได้อ่านให้นายแสนและพยานฟัง ถูกต้องตามความประสงค์แล้วได้ให้ลงชื่อกันไว้พร้อมกัน นายเหวอะกับนายบุญคงได้ลงชื่อเป็นพยานไว้ในพินัยกรรม นายอดิศรได้บันทึกรับรองว่าพินัยกรรมทำขึ้นถูกต้อง ตามอนุมาตรา 1 ถึง 3 ของมาตรา 1658 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กับได้ประทับตราตำแหน่งไว้ ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.5และพินัยกรรมฉบับนี้มีหลักฐานลงทะเบียนอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอบรบือ

ที่โจทก์ฎีกาว่านายอดิศรปลัดอำเภอทำพินัยกรรมในวันอาทิตย์หยุดราชการโดยไม่มีใครสั่ง เป็นการทำโดยปราศจากอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติราชการ ผู้ประสงค์จะทำพินัยกรรมมิได้ยื่นคำร้องแสดงความจำนงตามแบบของเจ้าพนักงานไว้เป็นหลักฐานขัดต่อระเบียบการทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง พินัยกรรมหมาย ล.5 จึงขัดต่อกฎหมายไม่สมบูรณ์นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าแม้ว่านายแสนผู้ประสงค์จะทำพินัยกรรมจะมิได้ยื่นคำร้องตามระเบียบก็ดี นายอดิศรปลัดอำเภอผู้จัดทำพินัยกรรมไม่ได้เขียนข้อความในวันเปิดทำงานตามปกติก็ดี ก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงความสมบูรณ์ของพินัยกรรมแต่ประการใด เพราะการที่ไม่ได้ยื่นคำร้องเป็นเรื่องที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบของพนักงานเจ้าหน้าที่เท่านั้นหาเกี่ยวกับเรื่องแบบแห่งพินัยกรรมที่กฎหมายบังคับไว้ไม่ ส่วนการที่ไปเขียน-พินัยกรรมในวันหยุดราชการนั้น ก็ไม่มีข้อห้ามมิให้ข้าราชการปฏิบัติราชการในวันหยุดราชการ การที่นายอดิศรปลัดอำเภอได้จัดทำพินัยกรรมให้นายแสนในวันอาทิตย์จึงไม่ทำให้พินัยกรรมเสียไป และเมื่อศาลฎีกาได้พิเคราะห์พินัยกรรมเอกสารหมาย ล.5 ประกอบด้วยแล้ว เห็นว่าเอกสารหมาย ล.5 มีรายการถูกต้องครบถ้วนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1648 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว ถือได้ว่าเป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย

พิพากษายืน

Share