คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1408/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยและขอให้นับโทษต่อกับโทษในคดีดำที่ 2138/2513 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องทั้งคดีนี้และคดีดำที่ 2138/2513 ซึ่งเป็นคดีแดงที่ 2408/2513 จึงไม่มีทางจะนับโทษต่อ ต่อมาหลังจากศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนี้แล้ว ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาลงโทษจำเลยในคดีแดงที่2408/2513 นั้นด้วย จำเลยฎีกาในคดีนี้ โจทก์จึงขอมาในคำแก้ฎีกา ให้นับโทษคดีนี้ต่อกับโทษในคดีแดงที่2408/2513 ดังนี้ ศาลฎีกาสั่งให้นับโทษต่อได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวก 1 คน ได้ร่วมกันมีอาวุธปืนติดตัวไปทำการชิงทรัพย์ของนายเฮือน ชุ่มดี และนางบัวคำ สิงคะ ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุด ให้จำคุก 1 ปี ฐานชิงทรัพย์พ้นโทษมายังไม่เกิน 3 ปี และเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกครั้งละ 1 ปีมาแล้ว 2 ครั้ง ฐานชิงทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดที่กระทำขณะจำเลยอายุเกิน 17 ปีแล้ว ภายในเวลา 10 ปีนับแต่วันพ้นโทษจำเลยได้กระทำผิดในคดีนี้อีก และจำเลยเป็นคนคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาดำที่ 2138/2513 และ 2139/2513 ของศาลจังหวัดเชียงรายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339, 83, 93, 41 กับให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหาย และกักกันจำเลยกับขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาดังกล่าว

จำเลยให้การปฏิเสธ ข้อเคยต้องโทษและพ้นโทษ จำเลยรับว่าเป็นความจริงตามฟ้อง และจำเลยรับว่าเป็นคนคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาดำที่ 2138/2513, 2139/2513

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339, 83 จำคุก 3 ปี เพิ่มโทษกึ่งหนึ่งตามมาตรา 93 เป็นจำคุก 4 ปี 6 เดือน ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหาย เมื่อพ้นโทษคดีนี้แล้ว ให้ส่งตัวจำเลยไปกักกันไว้มีกำหนด 3 ปี ตามมาตรา 41 ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อปรากฏว่าคดีอาญาดังกล่าวศาลชั้นต้นยังมิได้พิพากษา นับโทษต่อให้ไม่ได้ ให้ยกคำขอ

จำเลยฎีกา

โจทก์แก้ฎีกา และขอให้นับโทษต่อจากคดีอาญาดำที่ 2138/2513แดงที่ 2408/2513 ของศาลจังหวัดเชียงราย

ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยเป็นคนร้ายที่ชิงทรัพย์ผู้เสียหายจริงและวินิจฉัยต่อไปว่า อนึ่ง คดีอาญาดำที่ 2138/2513 คดีแดงที่ 2408/2513 ของศาลจังหวัดเชียงราย ซึ่งโจทก์ขอมาในคำแก้ฎีกาขอให้นับโทษจำเลยต่อนั้น ฟ้องโจทก์ได้ขอให้นับโทษต่อไว้แล้ว แต่ศาลจังหวัดเชียงรายพิพากษายกฟ้องทั้งคดีนี้และคดีดังกล่าวนั้นจึงไม่มีโทษที่จะนับโทษต่อ แต่หลังจากศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนี้แล้วศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาลงโทษจำเลยในคดีดังกล่าวแล้วด้วย จึงชอบที่จะนับโทษจำเลยต่อให้ได้

พิพากษายืน และให้นับโทษจำเลยในคดีนี้ต่อจากคดีอาญาแดงที่ 2408/2513 ของศาลจังหวัดเชียงราย

Share