แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่พิพาทอยู่ในเขตหวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินอำเภอเมืองลพบุรี อำเภอบ้านเช่า อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี พ.ศ. 2479 ซึ่งมาตรา 3 บัญญัติให้เป็นอำนาจของผู้บังคับการจังหวัดทหารบกลพบุรีที่จะหวงห้ามที่ดินได้ เมื่อพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวออกตามความในมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. 2478 และต่อมาพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 4 ได้บัญญัติให้ยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินเสียแล้ว พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวจึงถูกยกเลิกไปด้วย ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกลพบุรีโดยลำพังจึงหมดอำนาจหวงห้ามที่ดิน แต่ที่พิพาทก็ยังคงเป็นที่หวงห้ามต่อไปตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดินฯ
ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจมอบหมายให้ทบวงการเมืองอื่นดูแลรักษาและดำเนินการคุ้มครองป้องกันได้ตามมาตรา 8 ประมวลกฎหมายที่ดิน เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้กองทัพบกมีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาที่ดินตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาหวงห้ามที่ดินอำเภอเมืองลพบุรี อำเภอบ้านเช่าฯ พ.ศ. 2479 อำนาจดูแลรักษาที่ดินซึ่งอยู่ในเขตตามพระราชกฤษฎีกานี้จึงตกเป็นของกองทัพบก การที่โจทก์ขอออกโฉนดที่พิพาทและจำเลยคัดค้าน โดยกองทัพบกมอบหมายให้จำเลยเป็นผู้กระทำการแทน จำเลยจึงอยู่ในฐานะผู้ปฏิบัติการแทนของกองทัพบกซึ่งเป็นนิติบุคคลเท่านั้น โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย เพื่อห้ามจำเลยขัดขวางการออกโฉนดที่พิพาท
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินแปลงหนึ่ง ตั้งอยู่หมู่ที่ ๖ ตำบลเขาพระงาม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โจทก์ขอออกโฉนดที่ดินแปลงนี้ต่อเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดลพบุรี จำเลยขัดข้องในการขอออกโฉนดที่ดินของโจทก์โดยอ้างว่าที่ดินของโจทก์อยู่ในเขตหวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินอำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พ.ศ. ๒๔๗๙ โจทก์เห็นว่าตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวหวงห้ามเฉพาะที่ดินซึ่งเป็นที่รกร้างว่างเปล่าภายในเขตหวงห้ามเท่านั้น ที่ดินของโจทก์เป็นที่ดินที่มีการครอบครองมาก่อน จำเลยจึงไม่มีอำนาจที่จะห้ามในการขอออกโฉนดของโจทก์ จึงขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินของโจทก์ไม่อยู่ในอำนาจที่จำเลยจะทำการหวงห้าม ห้ามจำเลยขัดขวางการออกโฉนดของโจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้ขัดขวางการออกโฉนดของโจทก์เป็นการส่วนตัว แต่กระทำไปตามหน้าที่ ที่ดินของโจทก์อยู่ในเขตของพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินอำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พ.ศ. ๒๔๗๙ ออกตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. ๒๔๗๘ ซึ่งกำหนดให้ผูบังคับการจังหวัดทหารบกลพบุรีจะพิจารณาตามที่เห็นสมควร ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว แต่ยังเป็นที่ดินหวงห้ามและเป็นของรัฐ กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศมอบหมายให้กองทัพบกมีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาที่ดินแปลงนี้ การโอนที่ดินที่อยู่ในเขตหวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกาจะต้องทำเป็นพระราชบัญญัติ จำเลยและกองทัพบกไม่มีอำนาจขัดขวางการออกโฉนด โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นส่วนตัว
ศาลชั้นต้นพิพากษาห้ามมิให้จำเลยขัดขวางการออกโฉนดของโจทก์ ให้จำเลยแจ้งความเห็นควรออกโฉนดให้แก่โจทก์ไปยังเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดลพบุรี หากไม่แจ้งไป ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของโจทก์ว่า การวินิจฉัยเกี่ยวกับปัญหานี้จำเป็นต้องพิจารณาความเป็นมาของบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ตามลำดับพระราชกฤษฎีกาฉบับ พ.ศ. ๒๔๗๙ มาตรา ๓ บัญญัติให้เป็นอำนาจของผู้บังคับการจังหวัดทหารบกลพบุรีในอันที่จะหวงห้ามที่ดินได้ พระราชกฤษฎีกานี้ออกตามความในมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. ๒๔๗๘ ต่อมาพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๔ ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยการหวงห้ามที่รกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. ๒๔๗๘ พระราชกฤษฎีกาฉบับ พ.ศ. ๒๔๗๙ จึงถูกยกเลิกตามไปด้วย ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกลพบุรีโดยลำพังจึงหมดอำนาจที่จะหวงห้ามที่ดิน แต่ที่พิพาทยังคงเป็นที่หวงห้ามต่อไป ตามมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๘ แห่งประมวลกฎหมายที่ดินบัญญัติว่า ในกรณีที่ไม่มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจที่จะมอบหมายให้ทบวงการเมืองอื่นเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาและดำเนินการคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เมื่อปรากฏว่าตามประกาศของกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๐๖ ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้กองทัพบกมีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาที่ดินตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินอำเภอเมืองลพบุรี อำเภอบ้านเซ่า อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี พ.ศ. ๒๔๗๙ อำนาจหน้าที่ดูแลรักษาที่ดินจึงตกเป็นของกองทัพบก และกองทัพบกได้มอบหมายให้จำเลยเป็นผู้กระทำการแทนกองทัพบกซึ่งเป็นนิติบุคคล จำเลยจึงอยู่ในฐานะผู้ปฏิบัติการแทนกองทัพบกเท่านั้น โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเพื่อห้ามจำเลยขัดขวางการออกโฉนดที่ดินพิพาทของโจทก์
พิพากษายืน.