แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อจำเลยรับว่าเป็นเจ้าของแท่นเหล็กเครื่องปั๊มอลูมิเนียมรายพิพาท และแท่นเหล็กนั้นยังอยู่ในที่ดินของโจทก์ โดยไม่มีสิทธิที่จะอ้างได้ตามกฎหมาย ก็เท่ากับยอมรับว่าละเมิดสิทธิในที่ดินโจทก์ และการละเมิดยังมีติดต่อกันเรื่อยไปจนกว่าจะขนย้ายออกไป แม้จำเลยจะได้ขายแท่นเหล็กนั้นให้ผู้อื่นไปก่อนถูกโจทก์ฟ้องก็ตาม ขณะฟ้องก็ยังไม่ได้ขนย้ายไป โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยขนย้ายแท่นเหล็กรายพิพาทออกไปได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อแท่นเหล็กเครื่องปั๊มอลูมิเนียมจากผู้เช่าที่ดินบ้านเรือนโจทก์ซึ่งผู้เช่าถูกฟ้องขับไล่ไปแล้วแล้วจำเลยไม่ขนย้ายแท่นเหล็กของจำเลยออกไปจากที่ดินบ้านเรือนของโจทก์ เป็นการละเมิดทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ย และให้จำเลยขนแท่นเหล็กออกไปจากที่ดินของโจทก์
จำเลยให้การว่า เดิมแท่นเหล็กเครื่องปั๊มอลูมิเนียมเป็นของจำเลย แต่จำเลยขายให้นายพรหมไปแล้วก่อนที่จำเลยจะถูกฟ้องคดีนี้จำเลยมิได้ละเมิดสิทธิโจทก์ มิได้ทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ค่าเสียหายไม่ถึงที่โจทก์ฟ้อง
ศาลชั้นต้นสั่งว่าคดีไม่จำเป็นต้องสืบพยาน และพิพากษาให้จำเลยขนแท่นเหล็กเครื่องปั๊มออกไปจากที่ดินของโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยรับว่าเป็นเจ้าของแท่นเหล็กเครื่องปั๊มอลูมิเนียมรายพิพาทเมื่อแท่นเหล็กนั้นยังอยู่ในที่ดินของโจทก์โดยไม่มีสิทธิที่จะอ้างได้ตามกฎหมาย ก็เท่ากับยอมรับว่าละเมิดสิทธิในที่ดินโจทก์ และการละเมิดยังมีติดต่อกันเรื่อยไปจนกว่าจะขนย้ายออกไป แม้จำเลยจะได้ขายแท่นเหล็กนั้นให้นายพรหมไปก่อนถูกโจทก์ฟ้องก็ตาม ขณะฟ้องก็ยังไม่ได้ขนย้ายไป โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยขนย้ายแท่นเหล็กรายพิพาทออกไปได้
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น