คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คนร้าย 3 คนพยายามปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย คนร้าย 2 คนคือ ผ. และจำเลยขึ้นไปบนเรือนผู้เสียหาย จำเลยมีมีดปลายแหลมและก้านเครือกล้วย และจำเลยได้ใช้ก้านเครือกล้วยตีทำร้ายผู้เสียหาย แม่ยายผู้เสียหายอยู่ที่เรือนซึ่งมีสะพานทอดเดินถึงกันได้ตะโกนเรียกให้คนช่วย ผ. จึงไปที่เรือนแม่ยายผู้เสียหาย จำเลยยืนคุมผู้เสียหาย ผู้เสียหายกลัว ผ. จะทำร้ายแม่ยาย จึงเดินไปขอร้องไว้ และว่าจะเอาทรัพย์อะไรก็เอาไป แต่ ผ. กลับใช้ปืนยิงผู้เสียหาย การที่ ผ. ยิงผู้เสียหายในพฤติการณ์เช่นนี้ย่อมถือว่า ผ. กระทำไปโดยลำพัง จำเลยมิได้มีส่วนร่วมกระทำผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายด้วย จำเลยมีความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์โดยใช้ปืนยิงเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก 2 คน ได้ร่วมกันปล้นทรัพย์กระบือหนึ่งตัวของนายโป้ยนางเล็ก จำเลยกับพวกกระทำไปตลอดแล้ว แต่ไม่บรรลุผล และในการปล้นนี้จำเลยกับพวกได้ใช้ปืนยิงนายโป้ยหนึ่งนัดโดยเจตนาฆ่า เพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การกระทำผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์ และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์ กระสุนถูกนายโป้ยได้รับอันตรายแก่กายบาดเจ็บสาหัสขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 80, 288, 289, 80, 83 และนับโทษต่อกับคดีแดงที่ 431/2513

จำเลยให้การว่าไม่ได้กระทำผิด

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340, 288, 80, 83 ลงโทษตามมาตรา 288, 80 อันเป็นบทหนักจำคุกสิบห้าปี ลดโทษเพราะคำรับสารภาพ ชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ให้หนึ่งในสาม ตามมาตรา 78 เป็นจำคุก 10 ปี นับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาแดงที่ 431/2513 คำขอนอกจากนี้ให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า คืนวันเกิดเหตุ มีคนร้าย 2 คน คือนายเผยและจำเลยขึ้นมาบนเรือนนายโป้ยผู้เสียหาย และคนร้ายอีกคนหนึ่งไปเปิดคอกกระบือ นายเผยใช้ปืนจี้อกผู้เสียหาย จำเลยใช้ก้านเครือกล้วยตีผู้เสียหายและภรรยา และจำเลยถือมีดปลายแหลมด้วยขณะนั้นนางหยั่นแม่ยายผู้เสียหายอยู่ที่เรือนซึ่งมีสะพานทอดเดินถึงกัน ได้ตะโกนเรียกให้คนช่วย นายเผยจึงไปที่เรือนนางหยั่น จำเลยคงยืนคุมผู้เสียหายอยู่ ผู้เสียหายจึงเดินไปขอร้องนายเผยมิให้ทำร้ายนางหยั่น นายเผยก็ถีบผู้เสียหายและใช้ปืนยิงผู้เสียหาย กระสุนถูกที่เอวเหนือตะโพกล้มลงหมดสติไป แล้วคนร้ายจึงพากันหลบหนีไป จึงวินิจฉัยว่าจำเลยมิได้เป็นผู้ยิงนายโป้ยเอง เพียงแต่นายโป้ยกลัวว่านายเผยจะทำร้ายนางหยั่น นายโป้ยจึงขอร้องไว้ และว่าจะเอาทรัพย์อะไรก็เอาไป แต่นายเผยกลับยิงนายโป้ย การที่นายเผยยิงนายโป้ยในพฤติการณ์เช่นนี้ย่อมถือได้ว่านายเผยกระทำไปโดยลำพัง จำเลยมิได้มีส่วนร่วมกระทำผิดด้วยแต่อย่างใด จะถือว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดฐานพยายามฆ่านายโป้ยด้วยหาได้ไม่ จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์ตามที่โจทก์ฟ้องเท่านั้น และการพยายามปล้นทรัพย์นี้คนร้ายได้กระทำโดยใช้ปืนยิงด้วย จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4, 80

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4, 80 แก้ไขโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14 ส่วนโทษที่จะลงแก่จำเลย รวมทั้งการนับโทษต่อ คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share