แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การส่งสำเนาฎีกาในคดีแพ่งนั้น ผู้ฎีกามีหน้าที่จัดการนำส่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 70 ประกอบด้วยมาตรา 1(3) ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยที่ 1 นำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ภายใน 15 วัน จำเลยที่ 1 ได้นำส่งแล้ว แต่เมื่อส่งไม่ได้ศาลชั้นต้นได้สั่งให้รอจำเลยแถลง จำเลยที่ 1 ทราบคำสั่งดังกล่าวแล้วแต่ก็ไม่จัดการอย่างใด คงปล่อยทิ้งไว้จนเจ้าหน้าที่รายงานศาลเป็นเวลาถึง 1 เดือนและเพิกเฉยเรื่อยมาพฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 เป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้แก่โจทก์ถ้าไม่ชำระก็ให้จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ค้ำประกันและผู้จำนองชำระแทน มิฉะนั้นให้บังคับจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 2 เอาชำระหนี้ในวงเงินที่จำเลยที่ 2จะต้องรับผิด
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ปรากฏข้อเท็จจริงในสำนวนว่า จำเลยที่ 1 ยื่นฎีกาวันที่ 24 มกราคม 2526 ศาลชั้นต้นสั่งรับและให้จำเลยที่ 1 นำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ภายใน 15 วัน วันที่ 7กุมภาพันธ์ 2526 พนักงานเดินหมายรายงานว่าส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์มิได้เนื่องจากทนายโจทก์ย้ายที่อยู่ ศาลชั้นต้นสั่งว่ารอฟังจำเลยแถลงเมื่อวันที่ 9 เดือนเดียวกัน ต่อมาวันที่ 16 เดือนเดียวกันทนายจำเลยที่ 1 ได้มาเซ็นรับทราบคำสั่งศาล วันที่ 16 มีนาคม 2526 เจ้าหน้าที่ศาลรายงานว่าจำเลยที่ 1 ไม่แถลงเรื่องการส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งสำนวนมาให้ศาลฎีกาพิจารณาสั่ง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การส่งสำเนาฎีกาในคดีแพ่งนั้น ผู้ฎีกามีหน้าที่จัดการนำส่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 70 ประกอบด้วยมาตรา 1(3)เมื่อจำเลยที่ 1 ยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นได้สั่งให้จำเลยที่ 1 นำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ภายใน15 วัน จำเลยที่ 1 ได้นำส่งตามคำสั่งศาล แต่เมื่อปรากฏว่าส่งมิได้ ศาลชั้นต้นได้สั่งให้รอจำเลยแถลงจำเลยที่ 1 ได้ทราบคำสั่งศาลแล้ว แทนที่จำเลยที่ 1 จะแถลงให้ศาลทราบว่าจะจัดการอย่างไรเกี่ยวกับการส่งสำเนาฎีกาภายในระยะเวลาอันสมควรจำเลยที่ 1 ก็ไม่จัดการอย่างใดคงปล่อยทิ้งไว้จนเจ้าหน้าที่รายงานศาล เป็นเวลาถึง 1 เดือนและเพิกเฉยเรื่อยมาพฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 ที่เพิกเฉยไม่ยอมแถลงต่อศาลศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยที่ 1 ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174
จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี