แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเก็บปืนและเงิน 70,000 บาท ไว้ในลิ้นชักรถ เมื่อจำเลยนั่งรถไปด้วย ถือได้ว่าจำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไป และการที่จำเลยขับรถไปส่งผู้เสียหายกับพวกแล้วพากันไปนั่งดื่มสุราและเบียร์ โดยทิ้งเงินไว้ในรถซึ่งจอดอยู่ห่างจากจำเลยประมาณ 5-6 วา แสดงว่าจำเลยมิได้ห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยของทรัพย์สิน การที่จำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไปจึงถือไม่ได้ว่ามีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธป์นรีวอลเวอร์ขนาด .38 ซึ่งเป็นปืนมีทะเบียนยิงผู้เสียหาย 1 นัด โดยเจตนาฆ่า กระสุนปืนที่จำเลยยิงไม่ถูกอวัยวะสำคัญ ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตาย และจำเลยพาอาวุธปืนดังกล่าวไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 371, 33 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 และฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 และพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ ให้ลงโทษและริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายแล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ที่จำเลยฎีกาว่าวันเกิดเหตุจำเลยนำเงิน 70,000 บาท และปืนของกลางเก็บไว้ในลิ้นชักรถ จำเลยไม่ได้เอาปืนมาพกไว้ที่ตัว ทั้งการที่จำเลยเก็บปืนไว้ในลิ้นชักรถก็เพื่อมิให้สูญหาย กับเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน นับว่ามีเหตุจำเป็นเร่งด่วนนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าแม้จำเลยจะเก็บไว้ในลิ้นชักรถ เมื่อจำเลยนั่งรถไปด้วย ก็ถือได้ว่าจำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไป การที่จำเลยขับรถไปส่งผู้เสียหายกับพวก แล้วพากันไปนั่งดื่มสุราและเบียร์ โดยทิ้งเงินไว้ในรถซึ่งจอดอยู่ห่างจากจำเลยประมาณ 5-6 วา แสดงว่าจำเลยมิได้ห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยของทรัพย์สิน การที่จำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไปจึงถือไม่ได้ว่ามีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
พิพากษายืน