แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีและศาลอนุญาตให้เลื่อนมาแล้วหลายนัดในนัดสุดท้ายขอเลื่อนโดยอ้างว่าป่วยเป็นไข้ไทฟอยด์ มีอาการท้องร่วงอย่างแรงและอ่อนเพลีย ไม่สามารถมาดำเนินคดีในศาลได้ ปรากฏตามใบรับรองแพทย์ที่แนบมาพร้อมคำร้อง ดังนี้ คำร้อง ขอเลื่อนคดี ของทนายจำเลยมิได้แสดงให้เป็นที่พอใจศาลว่าถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรมตามที่บัญญัติไว้ ในป.วิ.พ. มาตรา 40 วรรคแรก ศาลจึงไม่อาจให้เลื่อนคดีได้.
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกหนี้ จำเลยที่ 2 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการและผู้ชำระบัญชีของจำเลยที่ 1 ชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี สัญญาทรัสต์รีซีท และสัญญายืมเงินส่วนจำเลยที่ 3 ในฐานะผู้จำนองที่ดินเป็นประกันการชำระหนี้ และจำเลยที่ 3 และที่ 4 ในฐานะร่วมกันเป็นผู้ค้ำประกันหนี้ทุกประเภทจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ให้การต่อสู้คดี ส่วนจำเลยที่ 3 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วนัดสืบพยานจำเลย ถึงวันนัดสืบพยานจำเลย จำเลยขอเลื่อนคดีหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยประวิงคดีให้ถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบให้งดสืบพยานจำเลย แล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงิน 24,329,091.57 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…พิเคราะห์แล้วปัญหามีว่า สมควรอนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีไปตามคำร้องของทนายจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 หรือไม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 วรรคแรก ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมแล้วบัญญัติว่า “เมื่อศาลได้กำหนดวันนัดนั่งพิจารณาและแจ้งให้คู่ความทราบแล้ว ถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเหตุจำเป็นที่จะต้องขอเลื่อนการนั่งพิจารณาต่อไปโดยเสนอคำขอในวันนั้นหรือก่อนวันนั้น ศาลจะสั่งให้เลื่อนต่อไปก็ได้ แต่เมื่อศาลได้สั่งให้เลื่อนไปแล้วคู่ความฝ่ายนั้นจะขอเลื่อนการนั่งพิจารณาอีกไม่ได้ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ และคู่ความฝ่ายที่จะขอเลื่อนแสดงให้เป็นที่พอใจของศาลได้ว่า ถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรม ก็ให้ศาลสั่งเลื่อนคดีต่อไปได้เท่าที่จำเป็นแม้จะเกินกว่าหนึ่งครั้ง” ปรากฎว่าทนายจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีและศาลอนุญาตให้เลื่อนมาแล้วหลายนัด ในนัดสุดท้ายขอเลื่อนโดยอ้างว่าป่วยเป็นไข้ไทฟอยด์ มีอาการท้องร่วงอย่างแรงและอ่อนเพลีย ไม่สามารถมาดำเนินคดีในศาลได้ ปรากฏตามใบรับรองแพทย์ที่แนบมาพร้อมคำร้อง จึงขอเลื่อนการพิจารณาออกไปสักนัดหนึ่ง ดังนี้คำร้องขอเลื่อนคดีของทนายจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3มิได้แสดงให้เป็นที่พอใจของศาลว่า ถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรม ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 วรรคแรก ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมแล้วดังนี้ศาลจึงไม่อาจให้เลื่อนคดีได้ ที่ศาลล่างทั้งสองไม่อนุญาตให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เลื่อนคดีจึงชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.