คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2677/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ขอเลื่อนคดีโดยมอบฉันทะให้เสมียนทนายไปยื่นคำร้องแทนศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีแล้วนัดฟังคำพิพากษาในวันรุ่งขึ้น เห็นได้ว่าโจทก์ย่อมไม่มีเวลาเพียงพอจะโต้แย้งคำสั่งดังกล่าวได้ แม้โจทก์จะมิได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้ โจทก์ก็มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจ้างโจทก์ตกแต่งและทำเครื่องเฟอนิเจอร์ โจทก์ทำงานเสร็จจำเลยรับมอบของไปแล้ว จำเลยจ่ายค่าจ้างให้บางส่วน ขอให้บังคับจำเลยชำระส่วนที่ค้างพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่าชำระครบถ้วนแล้ว ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ

ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์นำสืบก่อน วันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ขอเลื่อนคดีอ้างว่าป่วย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ งดสืบพยานจำเลย พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์คำสั่งที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าพฤติการณ์ของโจทก์ไม่พอชี้ว่าประวิงคดี พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การเลื่อนคดีครั้งแรกศาลชั้นต้นให้เวลา 10 วัน ครั้งที่ 2ให้เวลา 12 วัน โจทก์และทนายโจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ห่างไกลกันและห่างไกลศาลเห็นได้ว่าการติดต่อไม่สะดวกและไม่มีเวลาพอสมควร ไม่พอที่จะถือว่าโจทก์ประวิงคดี ส่วนที่ว่าโจทก์ไม่โต้แย้งคำสั่งในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีจึงไม่มีสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 226(2) นั้น ปรากฏว่าโจทก์ขอเลื่อนคดีโดยมอบฉันทะให้เสมียนทนายไปยื่นคำร้องแทน ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีแล้วนัดฟังคำพิพากษาในวันรุ่งขึ้น เห็นได้ว่าโจทก์ย่อมไม่มีเวลาเพียงพอจะโต้แย้งคำสั่งดังกล่าวได้การที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2) กำหนดให้โต้แย้งคำสั่งก่อนจึงจะอุทธรณ์ได้นั้น ย่อมบังคับใช้ในกรณีที่คู่ความมีโอกาสโต้แย้งคำสั่งก่อนจึงจะอุทธรณ์ได้ก็ต้องโต้แย้งไว้ ดังนั้นถึงแม้โจทก์จะมิได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้ก็ตามโจทก์ก็มีสิทธิอุทธรณ์ได้

พิพากษายืน

Share