แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทราบกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์โดยชอบแล้ว แต่ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา แล้วให้พิจารณาสืบพยานโจทก์ไป เสมียนทนายจำเลยเพิ่งนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากศาลสืบพยานโจทก์ซึ่งมีปากเดียวเสร็จสิ้นแล้ว ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีชอบแล้ว
ทนายจำเลยผู้ขาดนัดพิจารณามาศาลภายหลังที่โจทก์นำพยานเข้าสืบไปแล้ว จึงคัดค้านพยานนั้นโดยวิธีถามค้านพยานของโจทก์ที่สืบไปแล้วไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสาม (2)
การที่เสมียนทนายจำเลยซึ่งได้รับมอบหมายจากทนายจำเลยนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากที่ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์แล้ว ก่อนโจทก์แถลงหมดพยาน ถือได้ว่าจำเลยผู้ขาดนัดมาศาลยังไม่พ้นเวลาที่จะนำพยานของตนเข้าสืบตามมาตรา 205 วรรคสาม (1) และจำเลยได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว จึงมีสิทธินำพยานของตนเข้าสืบได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสั่งให้โจทก์ซื้อหุ้นของบริษัทโจทก์ 400 หุ้น หุ้นละ 1,640 บาทโจทก์ออกเงินทดรองจ่ายค่าซื้อหุ้นแทนจำเลย รวมค่านายหน้าเป็นเงิน 658,624 บาทจำเลยต้องชำระดอกเบี้ยร้อยละ 14 ต่อปี รวมจำเลยเป็นหนี้โจทก์ 709,653.83 บาทเมื่อหักกลบลบหนี้กับตั๋วเงินที่จำเลยนำมาประกัน 300,000 บาทแล้ว จำเลยคงเป็นหนี้โจทก์ 409,653.83 บาท ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่าไม่เคยสั่งซื้อหุ้นใด ๆ กับโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
วัดนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาโจทก์สืบพยานได้ 1 ปาก แล้วแถลงหมดพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ 358,624 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยทราบกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์โดยชอบแล้ว แต่ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาแล้วให้พิจารณาสืบพยานโจทก์ไป เสมียนทนายจำเลยเพิ่งนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากศาลสืบพยานโจทก์ซึ่งมีปากเดียวเสร็จสิ้นแล้ว ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีชอบแล้ว ส่วนที่จำเลยขอค้านพยานโจทก์นั้น ปรากฏว่า ทนายของจำเลยผู้ขาดนัดมาศาลภายหลังที่โจทก์นำพยานเข้าซักสืบไปแล้วจึงคัดค้านพยานนั้นโดยวิธีถามค้านพยานของโจทก์ที่ได้สืบไปแล้วไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสาม (2) ดังนั้นจำเลยจะขอซักค้านพยานโจทก์ที่สืบไปแล้วหาไม่ได้ ที่จำเลยฎีกาขอสืบพยานจำเลยนั้น เห็นว่า การที่เสมียนทนายจำเลยซึ่งได้รับมอบหมายจากทนายจำเลยนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากที่ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์แล้ว ก่อนโจทก์แถลงหมดพยาน ถือได้ว่าจำเลยผู้ขาดนัดมาศาลยังไม่พ้นเวลาที่จะนำพยานของตนเข้าสืบตาม มาตรา 205 วรรคสาม (1)จำเลยยื่นบัญชีพยานไว้แล้ว จึงมีสิทธินำพยานของตนเข้าสืบ การที่ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ได้ 1 ปาก โจทก์แถลงหมดพยาน ศาลชั้นต้นถือว่าเสร็จการพิจารณาไม่นัดสืบพยานจำเลยเพื่อให้จำเลยนำพยานเข้าสืบ จึงเป็นการไม่ชอบ กรณีสมควรให้จำเลยนำพยานเข้าสืบต่อไป
พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นให้จำเลยนำพยานเข้าสืบแล้วพิพากษาใหม่