คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2098/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อประเด็นที่ว่าจำเลยค้างชำระค่าจ้างแก่โจทก์ตามฟ้องหรือไม่จำเลยได้ให้การต่อสู้ว่าชำระแล้ว แต่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดปัญหาข้อนี้เป็นประเด็นข้อพิพาทไว้โดยโจทก์จำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้านแต่อย่างใดถือได้ว่าคู่ความสละเกี่ยวกับปัญหาข้อนี้แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำ จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม โจทก์ทำงานมาเป็นเวลา 1 ปีเศษ มีสิทธิได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 3 เดือนแต่จำเลยจ่ายให้เพียง 2 เดือนจึงต้องจ่ายให้โจทก์อีก 1 เดือนและต้องชำระค่าจ้างเดือนสุดท้ายอีก 1 เดือน ขอให้บังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชยที่ขาดและค่าจ้างที่ค้างพร้อมด้วยดอกเบี้ย กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์สมัครเข้าทำงานกับจำเลยถึงวันเลิกจ้างเป็นเวลา 1 เดือน 12 วันเท่านั้น จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์ 1 เดือนถูกต้องตามกฎหมายแล้วจำเลยออกให้โจทก์ออกจากงานโดยชอบแล้ว โจทก์ยอมรับเงินเดือนและค่าชดเชยไปเรียบร้อยแล้วไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆการที่จำเลยให้โจทก์ออกจากงานไม่ได้กลั่นแกล้งแต่อย่างใด โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลย ขอให้พิพากษายกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย คำขอของโจทก์นอกจากนี้ให้ยกเสีย

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ประเด็นที่ว่าจำเลยยังค้างชำระค่าจ้างแก่โจทก์หรือไม่นั้น จำเลยให้การต่อสู้ในข้อนี้ว่าได้ชำระแล้วแต่ศาลแรงงานกลางมิได้กำหนดปัญหาข้อนี้เป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ และโจทก์จำเลยมิได้โต้แย้งหรือคัดค้านแต่อย่างใด ถือได้ว่าคู่ความได้สละเกี่ยวกับปัญหาข้อนี้แล้ว ดังนั้นที่ศาลแรงงานกลางมิได้วินิจฉัยในประเด็นข้อนี้จึงเป็นการชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share