คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2004/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้จัดการจำเลยเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล อนุญาตให้โจทก์จอดรถที่ปั๊มน้ำมันของจำเลย. แม้จำเลยจะไม่ได้รับบำเหน็จตอบแทนก็หาพ้นจากความรับผิดในฐานเป็นผู้รับฝาก ไม่
คนงานของจำเลยให้รถที่โจทก์ฝากแก่คนอื่นไปโดยมิได้ตรวจดูหนังสือที่มีผู้นำมาขอรับรถให้ดีเสียก่อนว่าเป็นลายมือชื่อของโจทก์หรือไม่ ทั้งๆ ที่คนขายน้ำมันของจำเลยจำลายมือโจทก์ได้ ดังนี้ เป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง จำเลยต้องรับผิดใช้คืนแก่โจทก์
โจทก์เรียกเอาทรัพย์ที่ฝากไว้กับจำเลยคืน ดังนั้นไม่ว่าจำเลยซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลจะมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินการประการใด จำเลยก็มีหน้าที่จะต้องคืนให้โจทก์ จะอ้างว่าผิดวัตถุประสงค์ไม่ได้
แม้ตามฟ้องโจทก์จะเรียกเอาค่าเสียหาย แต่โจทก์เรียกร้องเอาเท่ากับราคารถยนต์ จึงเป็นการเรียกเอาทรัพย์ที่ฝากคืนนั่นเอง เมื่อรถสูญหายไป โจทก์จึงเรียกราคาแทน คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ฝากรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน ก.ท.ผ.1742ราคา 57,500 บาทไว้ในความดูแลของจำเลย รถหายไป ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 57,500 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง

จำเลยให้การว่า โจทก์เช่ารถมาจากผู้อื่น โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยไม่เคยรับฝากรถจากโจทก์ จำเลยไม่มีวัตถุประสงค์ในการรับฝากรถคดีโจทก์ขาดอายุความ

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 45,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งนับแต่วันฟ้อง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ปัญหาที่ว่า จำเลยได้รับฝากรถจากโจทก์หรือไม่ ศาลฎีกาฟังว่านายกฤษณะผู้จัดการจำเลยอนุญาตให้โจทก์จอดรถที่ปั๊มจำเลยและให้มอบกุญแจไว้กับคนงานของจำเลย จึงเป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์มอบรถให้อยู่ในความดูแลของจำเลย แม้จำเลยจะไม่ได้รับบำเหน็จตอบแทน ก็หาพ้นความรับผิดในฐานผู้รับฝากไม่

ปัญหาที่ว่า จำเลยประมาทเลินเล่อทำให้รถยนต์โจทก์สูญหายหรือไม่ศาลฎีกาเห็นว่าคนงานของจำเลยให้รถแก่คนอื่นไปโดยมิได้ตรวจดูหนังสือที่มีผู้นำมาขอรับรถให้ดีเสียก่อนว่าเป็นลายมือชื่อโจทก์หรือไม่ ทั้ง ๆ ที่คนขายน้ำมันของจำเลยจำลายมือชื่อโจทก์ได้ เช่นนี้ เป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง จำเลยจึงต้องรับผิดใช้คืนแก่โจทก์

ปัญหาที่ว่า จำเลยไม่มีวัตถุประสงค์ในการรับฝากรถ จะต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่ากรณีนี้เป็นเรื่องโจทก์เรียกเอาทรัพย์ที่ฝากไว้กับจำเลยคืน ดังนั้น ไม่ว่าจำเลยจะมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินการประการใด จำเลยมีหน้าที่จะต้องคืนให้โจทก์ จะอ้างว่าผิดวัตถุประสงค์ไม่ได้

ปัญหาเรื่องอายุความ ศาลฎีกาเห็นว่าแม้ตามฟ้องโจทก์จะเรียกเอาค่าเสียหาย แต่โจทก์เรียกร้องเอาเท่ากับราคารถยนต์ จึงเป็นการเรียกเอาทรัพย์ที่ฝากคืนนั่นเอง เมื่อรถสูญหายไป โจทก์จึงเรียกราคาแทนคดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

พิพากษายืน

Share