แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำพิพากษาของศาลชั้นต้นซึ่งได้พิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ถ้าหากโจทก์เห็นว่าไม่ถูกต้องอย่างไรก็ชอบที่จะอุทธรณ์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 จะยื่นฟ้องให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาทำลายคำพิพากษาของศาลนั้นเองไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า วันเดือนใดจำไม่ได้ พ.ศ. 2512 จำเลยพูดเกลี้ยกล่อมหลอกลวงชักจูงให้โจทก์หลงเชื่อ ทำนิติกรรมว่าโจทก์กู้เงินจำเลย 9,000 บาท ในปีเดียวกันนั้นจำเลยได้ฟ้องโจทก์เรียกเงินตามสัญญากู้พร้อมทั้งดอกเบี้ยตามสำนวนคดีดำที่ 301/2512ของศาลจังหวัดสุรินทร์ โจทก์ให้การปฏิเสธ และจำเลยพูดหลอกลวงเชิงบังคับโจทก์ให้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลย ยอมใช้เงิน5,000 บาท ถ้าไม่ใช้ยอมโอนที่นา 60 ไร่ให้จำเลยภายใน 5 วันศาลจังหวัดสุรินทร์ได้พิพากษาคดีที่กล่าวแล้วตามสำนวนคดีแดงที่274/2512 ขอให้ศาลพิพากษาทำลายเอกสารสัญญากู้ยืมและสัญญาประนีประนอมยอมความ กับคำพิพากษาคดีแดงที่ 274/2512 ของศาลจังหวัดสุรินทร์ และพิพากษาว่าเอกสารดังกล่าวเป็นโมฆะกรรม
ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ชอบที่จะอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ไม่อาจใช้สิทธิขอให้ศาลพิพากษาทำลายคำพิพากษาของศาลนั้นเอง และพิพากษาว่าเป็นโมฆะได้ แต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องโจทก์ไม่ถูกต้อง เพราะฟ้องของโจทก์มีมูลพอรับไว้พิจารณา จึงต้องยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรค 3พิพากษาแก้คำสั่งศาลชั้นต้น เป็นให้ยกฟ้องโจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น และให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลทำให้ข้อพิพาทต่าง ๆ ระงับสิ้นไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850, 852โจทก์จะอ้างมาเป็นมูลฟ้องขอให้เพิกถอนทำลายสัญญากู้นั้นอีกหาได้ไม่ส่วนคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ซึ่งได้พิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ถ้าหากโจทก์เห็นว่าไม่ถูกต้องอย่างไร ก็ชอบที่จะอุทธรณ์ฎีกาให้ศาลสูงแก้ไขได้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 หากไม่กระทำเช่นนั้น จะยื่นฟ้องให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาทำลายคำพิพากษาของศาลนั้นเองย่อมไม่ได้เพราะคำพิพากษามีผลผูกพันคู่ความนับตั้งแต่วันที่อ่านคำพิพากษาแล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์