แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้มีดโต้ยาว 50 เซนติเมตร เฉพาะคมยาว 30 เซนติเมตรเงื้อขึ้นฟันมายังบริเวณคอหรือบ่าผู้เสียหายแต่ไม่ถูก คมมีดฝังลงในเนื้อไม้ลูกกรงครึ่งเซนติเมตรยาว 3 เซนติเมตรแสดงว่าได้ฟันไปอย่างแรง หากคมมีดถูกบริเวณอวัยวะดังกล่าวย่อมทำให้ถึงแก่ความตายได้ซึ่งจำเลยย่อมเล็งเห็นผลดังกล่าวแล้วจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าตามวันเวลาเกิดเหตุจำเลยได้ใช้อาวุธมีดโต้ฟันผู้เสียหาย 1 ที แต่ผู้เสียหายหลบเสียทัน คมมีดจึงไม่ถูกร่างกายของผู้เสียหาย เช่นนี้เห็นว่าการที่จำเลยใช้มีดโต้ซึ่งทั้งด้ามทั้งคมยาว 50 เซนติเมตรเฉพาะส่วนคมยาวประมาณ 30 เซนติเมตร เงื้อขึ้นฟันมายังบริเวณคอหรือบ่าของผู้เสียหายอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกาย และปรากฏว่าคมมีดได้ฝังจมลงในเนื้อไม้ลูกกรงกั้นระเบียงถึงครึ่งเซนติเมตร ยาว 3 เซนติเมตร แสดงให้เห็นว่าจำเลยได้ฟันไปอย่างแรง หากคมมีดถูกบริเวณอวัยวะดังกล่าวของผู้เสียหายย่อมมีผลทำให้ถึงแก่ความตายได้ ซึ่งจำเลยย่อมเล็งเห็นผลดังกล่าวแล้ว ดังนี้จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
พิพากษากลับ ให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น