แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 ตกลงขายธนบัตรปลอมให้กับผู้ขอซื้อ เมื่อจำเลยที่1 นำธนบัตรปลอมมามอบให้กับผู้ขอซื้อ จำเลยที่ 2 บุตรจำเลยที่1 เป็นผู้ส่งมอบซองจดหมายบรรจุธนบัตรปลอมให้ พฤติการณ์ดังกล่าวของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดฐานร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 244.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2527 เวลากลางวันจำเลยทั้งสามร่วมกันมีและนำออกขายธนบัตรปลอม โดยรู้ว่าธนบัตรดังกล่าวเป็นเงินตราปลอม ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 244, 83 ริบของกลาง
จำเลยทั้งสามปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 244 จำคุกคนละ 6 ปี ยกฟ้องจำเลยที่ 3 ริบธนบัตรปลอมของกลาง
จำเลยที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าคำเบิกความของพยานโจทก์ทั้งสี่สอดคล้องกันได้ความตามทางนำสืบของโจทก์ว่า สิบตำรวจตรีจรัล กับนายสีได้ไปที่บ้านจำเลยที่ 1 พบจำเลยที่ 1 ที่ 2อยู่บนบ้าน นายสีเจรจาขอซื้อธนบัตรปลอมจากจำเลยที่ 1จำเลยที่ 1 ตกลงขายให้ สิบตำรวจตรีจรัลว่าไม่ได้เตรียมเงินมาจึงนัดซื้อขายกันในวันรุ่งขึ้นเวลา 6 นาฬิกา เมื่อถึงเวลานัดจำเลยที่ 1 ขี่รถปิคอัพไปที่ศาลาไทยสี่แยกแม่กรณ์อำเภอเชียงราย จังหวัดเชียงรายตามนัดและรับเงินไปจากสิบตำรวจตรีจรัล ต่อมาจำเลยที่ 2 ขี่รถจักรยานยนต์มา จำเลยที่ 1 บอกจำเลยที่ 2 ว่าได้รับเงินเรียบร้อยแล้วจำเลยที่ 2จึงสงมอบซองจดหมายสีขาวซึ่งบรรจุธนบัตรปลอมของกลางทั้ง20 ฉบับให้สิบตำรวจตรีจรัล จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้าจับกุมยึดได้ของกลางคือเงิน 4,000 บาทที่ใช้ล่อซื้อจากจำเลยที่ 1 และธนบัตรปลอมฉบับละ 500 บาทจำนวน 20 ฉบับ ตามพฤติการณ์ฟังได้มั่นคงว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำผิดจริงตามฟ้อง
พิพากษายืน.