คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2361/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ก่อนโจทก์จำเลยจะมีกรณีพิพาทในกรรมสิทธิ์ของบ้านพิพาทกันจำเลยได้นำคำร้องซึ่งเป็นเอกสารราชการปลอมไปยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอเพื่อขอเลขบ้านพิพาทใหม่ โดยต้องการเอาบ้านนั้นเป็นของจำเลย แต่เลขบ้านมิใช่หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์แม้จำเลยจะได้เลขบ้านใหม่มาก็หาทำให้โจทก์หมดสิทธิที่จะใช้เลขบ้านเดิมไม่ ความเสียหายอันเกิดจากการใช้เอกสารปลอมจึงเกิดขึ้นแก่นายทะเบียนเท่านั้น โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายที่จะมีอำนาจฟ้องจำเลยได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำเอกสารราชการปลอมขึ้น โดยจำเลยกรอกข้อความลงในแบบพิมพ์ของทางราชการยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนอำเภอละงูว่าจำเลยอยู่บ้านเลขที่ 225/1 หมู่ที่ 3 ตำบลกำแพงอำเภอละงู จังหวัดสตูล มีความประสงค์ขอเลขบ้านใหม่ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านเลขที่ 88/2 แล้วลงลายมือชื่อของจำเลยต่อท้าย ส่วนในช่องความเห็นเจ้าหน้าที่ จำเลยได้กรอกข้อความลงไปว่าอนุญาตบ้านเลขที่ 88/3 ตำบลกำแพง แล้วปลอมลายมือชื่อกำนันตำบลกำแพงท้ายข้อความดังกล่าว โดยจำเลยเจตนาที่จะให้ผู้อื่นและนายทะเบียนอำเภอละงูหลงเชื่อว่าเอกสารที่จำเลยทำปลอมขึ้นเป็นเอกสารที่แท้จริงได้ผ่านการตรวจสอบของกำนันตำบลกำแพงซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามขั้นตอนถูกต้องแล้ว เพื่อนายทะเบียนจะได้อนุญาตให้เลขบ้านให้จำเลยต่อไป และจำเลยได้ใช้เอกสารปลอมดังกล่าวไปอ้างและแสดงต่อนายทะเบียน เป็นเหตุให้นายทะเบียนหลงเชื่อว่ากำนันได้ทำการตรวจสอบลงความเห็นและลงลายมือชื่อไว้ในเอกสารนั้นจริงจึงสั่งอนุญาตให้เลขบ้านไปตามเอกสารที่จำเลยทำปลอมขึ้น การกระทำของจำเลยก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ และโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นเพราะบ้านที่จำเลยทำเอกสารปลอมขึ้นเพื่อขอเลขบ้านใหม่เป็นบ้านของโจทก์ซึ่งมีเลขบ้านอยู่ก่อนแล้ว จำเลยเป็นเพียงผู้เช่าบ้านของโจทก์ หามีสิทธิขอเลขบ้านซ้ำซ้อนในบ้านของโจทก์ไม่ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265 และ 268
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานใช้หรืออ้างเอกสารราชการปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265, 268 จำคุก 6 เดือน ข้อหาปลอมเอกสารราชการให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายที่คัดค้านว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าบ้านพิพาทที่จำเลยอาศัยอยู่ขณะนี้ เดิมโจทก์ได้ขอหมายเลขบ้านไว้แล้วเป็นบ้านเลขที่ 70/2 ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล จำเลยได้นำคำร้องซึ่งเป็นเอกสารราชการปลอมไปยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอละงู ขอออกเลขบ้านพิพาทใหม่เพื่อต้องการเอาบ้านดังกล่าวเป็นของจำเลย นายทะเบียนอำเภอละงูหลงเชื่อได้อนุญาตให้ออกเลขบ้านให้จำเลยใหม่เป็นบ้านเลขที่ 88/3 ขณะนี้โจทก์จำเลยมีกรณีพิพาทโต้เถียงกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนี้อยู่ในศาลชั้นต้น
เห็นว่า แม้โจทก์จะได้ขอเลขบ้านพิพาทไว้ก่อนและขณะนี้โจทก์จำเลยจะมีกรณีพิพาทโต้เถียงกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนี้กันอยู่ก็ตามแต่การที่จำเลยนำคำร้องซึ่งเป็นเอกสารราชการปลอมไปยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอละงู จังหวัดสตูล เพื่อขอเลขบ้านพิพาทใหม่นั้น ถึงหากจะกระทำไปโดยต้องการเอาบ้านดังกล่าวเป็นของจำเลย แต่เลขบ้านมิใช่หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ ทั้งโจทก์เป็นเจ้าของเลขบ้านใดอยู่ แม้จำเลยจะไปขอเลขบ้านดังกล่าวและได้เลขบ้านนั้นมา ก็หาทำให้โจทก์หมดสิทธิที่จะใช้เลขบ้านนั้นไม่ ความเสียหายอันเกิดจากการใช้เอกสารปลอมจึงเกิดขึ้นแก่นายทะเบียนอำเภอละงูเท่านั้น โจทก์ไม่ใช่เป็นผู้เสียหายตามกฎหมายอันจะมีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ได้
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง.

Share