คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1850/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนซึ่งจำเลยเป็นประธานและวินิจฉัยว่าโจทก์มิได้ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างโดยโจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ได้รับอันตรายโดยประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ที่ โจทก์ขับขี่ แพทย์ลงความเห็นว่ากระดูกต้นขาขวาและกระดูกหน้าแข้งแตกละเอียดเข่าขวาจะงอพับไม่ได้ตลอดไป กระดูกอักเสบเป็นหนองเรื้อรังที่ขาขวาตลอดไป ดังนี้ โจทก์ได้บรรยายถึงบาดแผลของโจทก์ที่เกิดจากอุบัติเหตุและผลที่ได้รับจากอุบัติเหตุนั้นแล้ว ทั้งตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 54 วรรคสอง มีข้อความว่า การประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยซึ่งเป็นเหตุให้สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของอวัยวะไปเพียงบางส่วน ให้ถือว่าลูกจ้างสูญเสียอวัยวะนั้นด้วยฯ โจทก์จึงหาจำต้องบรรยายฟ้องว่าโจทก์ได้สูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพด้วยไม่ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของบริษัทซิงเกอร์ ประเทศไทย จำกัดครั้งสุดท้ายทำหน้าที่พนักงานขายและเก็บเงินจากลูกค้า โจทก์ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้กับนายจ้างโดยโจทก์ได้ซ่อมเครื่องรับโทรทัศน์ให้แก่นางผ่องผู้เป็นลูกค้า เมื่อซ่อมเสร็จโจทก์ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปเก็บเงินจากนายบำรุงซึ่งอยู่ใกล้เคียงและในความรับผิดชอบของโจทก์ ระหว่างเดินทางโจทก์ประสบอุบัติเหตุรถยนต์บรรทุกชนรถจักรยานยนต์ที่โจทก์ขับขี่เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับบาดเจ็บ แพทย์ลงความเห็นว่ากระดูกต้นขาขวาและกระดูกหน้าแข้งแตกละเอียด เข่าขวางอพับไม่ได้ตลอดไป กระดูกขาขวาอักเสบเป็นหนองเรื้อรังเป็นการประสบอันตรายหรือบาดเจ็บเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง โจทก์ยื่นคำร้องขอรับเงินทดแทนแล้วแต่งานกองทุนกเงินทดแทน สำนักงานแรงงานจังหวัดลพบุรี วินิจฉัยว่า การประสบอันตรายที่โจทก์ได้รับมิได้เนื่องจากการทำงาน ไม่มีสิทธิได้รับเงินทดแทนโจทก์อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนซึ่งจำเลยเป็นประธานคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนมีมติว่าโจทก์มิได้ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของจำเลยและพิพากษาว่า โจทก์ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้างและให้จ่ายเงินทดแทนรายเดือนให้แก่โจทก์

จำเลยให้การว่าคำวินิจฉัยของงานกองทุนเงินทดแทน สำนักงานแรงงานจังหวัดลพบุรี และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนชอบแล้ว ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ไม่ชัดเจน เพราะไม่ปรากฏว่าโจทก์ประสบอันตรายถึงทุพพลภาพหรือสูญเสียอวัยวะบางส่วนของร่างกายตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 54 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดการจ่ายค่าทดแทนข้อ 2 และข้อ 3 โจทก์ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเป็นเหตุให้สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของอวัยวะไปเพียงร้อยละห้าสิบตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง กำหนดการจ่ายค่าทดแทน ข้อ 1(2) และ ข้อ 3(8) หากโจทก์มีสิทธิได้รับค่าทดแทนก็จะได้รับอย่างมากเพียงร้อยละหกสิบของค่าจ้างรายเดือน ที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้างและขอให้จ่ายเงินทดแทนรายเดือนจำเลยไม่สามารถเข้าใจฟ้อง เพราะคำว่าเงินทดแทนหมายความว่าเงินที่จ่ายให้เป็นค่าทดแทน ค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงานและค่าทำศพฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม และโจทก์ประสบอุบัติเหตุขณะขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านของโจทก์ กรณีจึงมิใช่ประสบอันตรายระหว่างการทำงานหรือเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าทดแทน ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม โจทก์มีสิทธิได้รับค่าทดแทนร้อยละหกสิบของเงินเดือนเดือนสุดท้าย คิดเป็นเงินเดือน ๆ ละ 3,214.80 บาทพิพากษาให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของจำเลย ให้โจทก์มีสิทธิได้รับเงินทดแทน(ที่ถูกเป็นค่าทดแทน) เป็นรายเดือน เดือนละ 3,214.80 บาท นับแต่วันที่โจทก์ประสบอันตรายเป็นต้นไปเป็นเวลา 2 ปี

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์ได้รับอันตรายโดยประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ที่โจทก์ขับขี่ แพทย์ลงความเห็นว่ากระดูกต้นขาขวาและกระดูฏหน้าแข้งแตกละเอียดเข่าขวาจะงอพับไม่ได้ตลอดไป กระดูกอักเสบเป็นหนองเรื้อรังที่ขาขวาตลอดไปโดยโจทก์มิได้บรรยายว่า โจทก์สูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพแต่อย่างใดที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี เห็นว่า โจทก์ได้บรรยายฟ้องถึงบาดแผลของโจทก์ที่เกิดจากอุบัติเหตุไว้แล้วว่าโจทก์ได้รับอย่างใดบ้าง และผลที่ได้รับนั้นคือเข่าขวางอพับไม่ได้ตลอดไปทั้งกระดูกอักเสบเป็นหนองเรื้อรังตลอดไป อันแสดงว่าโจทก์ได้สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของอวัยวะส่วนนั้นไปแล้ว และตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 54 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 9) ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2525มีข้อความในวรรคสองว่า การประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยซึ่งเป็นเหตุให้สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของอวัยวะไปเพียงบางส่วน ให้ถือว่าลูกจ้างสูญเสียอวัยวะนั้นด้วย แต่การคำนวณค่าทดแทนให้เทียบอัตราส่วนร้อยละจากจำนวนระยะเวลาที่กำหนดสำหรับการสูญเสียอวัยวะประเภทนั้น ๆ ตามข้อกำหนดของกระทรวงมหาดไทยเช่นนี้ โจทก์จึงหาจำต้องบรรยายฟ้องว่าโจทก์ได้สูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพด้วยไม่ฟ้องของโจทก์ได้แสดงสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างซึ่งเป็นหลักแห่งข้อหานั้นโดยแจ้งชัดแล้ว

พิพากษายืน

Share