คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 608/2545

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

แม้พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 18 วรรคหนึ่ง จะบัญญัติให้คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าเป็นที่สุดก็ตาม แต่หากคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าเป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ผู้อุทธรณ์ย่อมมีสิทธินำคดีมาฟ้องต่อศาลเพื่อขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยดังกล่าวได้ ดังนั้น เมื่อคำสั่งและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าที่ไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องคดีต่อศาลขอให้เพิกถอนคำสั่งและคำวินิจฉัยดังกล่าวได้
คำว่า “JAVA” หรือ “จาวา” ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ ส่วนคำว่า”CAFE” เรียกขานว่า คาเฟ่ ความหมายตามพจนานุกรมหมายถึง กาแฟหรือภัตตคารขนาดเล็ก จึงถือเป็นคำสามัญไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะเช่นเดียวกัน ตัวอักษรโรมันที่สะกดเป็นคำทั้งหมดไม่ว่าจะออกสำเนียงแยกเป็นคำหรือรวมกันเสียงเรียกขานก็ไม่แตกต่างกัน และสื่อความหมายให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นเครื่องหมายการค้าที่เล็งถึงลักษณะและแหล่งกำเนิดของสินค้านั้นโดยตรงจึงเป็นเครื่องหมายการค้าที่ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะตามมาตรา 7 วรรคสอง (2) แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ. 2534 ซึ่งนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าไม่อาจรับจดทะเบียนให้ได้
เครื่องหมายการค้าคำว่า “SINVINOJAVATEASTRAIGHT” มิได้มีแต่คำว่า “JAVA” อันเป็นชื่อในภูมิศาสตร์ หรือคำว่า “TEA” ซึ่งเป็นคำที่เล็งถึงลักษณะและคุณสมบัติแห่งสินค้าโดยตรงเท่านั้น แต่ยังมีคำอื่นที่มีลักษณะบ่งเฉพาะประกอบอยู่ด้วย จึงอาจได้รับการจดทะเบียนได้ตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 ซึ่งเป็นบทกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะจดทะเบียน นอกจากนี้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวมิได้มีแต่เพียงคำว่า “JAVA” ซึ่งเป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ที่ประชาชนโดยทั่วไปรู้จักและมีคำว่า “CAFE” ซึ่งเป็นคำอันได้เล็งถึงลักษณะหรือคุณสมบัติของสินค้ากาแฟโดยตรงอย่างเครื่องหมายการค้าคำว่า”JAVACAFE” ของโจทก์ซึ่งไม่อาจรับจดทะเบียนได้เพราะไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะตามมาตรา 6(1) ประกอบมาตรา 7 วรรคสอง (2)
หลักฐานการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE”ในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวต่อคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า มิใช่หลักฐานแสดงการจำหน่ายแพร่หลายหรือโฆษณาสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” ในประเทศไทยแล้ว อันจะถือได้ว่าเครื่องหมายการค้าดังกล่าวมีลักษณะบ่งเฉพาะตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 7 วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ. 2534 และการที่เครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” ของโจทก์ได้รับการจดทะเบียนมาแล้วในหลายประเทศก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละประเทศที่จะวางหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอย่างไร และความเห็นของนายทะเบียนในประเทศนั้น ๆ ไม่อาจนำมาเป็นเหตุผลให้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าต้องรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์โดยไม่ต้องพิจารณาถึงหลักเกณฑ์ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ตามกฎหมายของประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประกอบกิจการค้าขายหลักเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม โจทก์มอบอำนาจให้นายกิตติตู้จินดา เป็นผู้มีอำนาจฟ้องและดำเนินคดีแทนโจทก์ จำเลยที่ 1 เป็นหน่วยราชการมีฐานะเป็นกรมในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและอื่น ๆ จำเลยที่ 2 เป็นนายทะเบียนเครื่องหมายการค้า มีอำนาจและหน้าที่ในการดำเนินการพิจารณาคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าจำเลยที่ 3 เป็นประธานในคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาและทำคำวินิจฉัยการอุทธรณ์คำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่สั่งปฏิเสธไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและอื่น ๆโดยมีจำเลยที่ 4 ถึงที่ 9 เป็นกรรมการในคณะกรรมการดังกล่าว โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” อ่านว่า จาวาคาเฟ่ ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าที่โจทก์ใช้สำหรับสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มซึ่งโจทก์ได้ผลิตและจำหน่ายในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียและในประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศ โดยโจทก์ได้ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” ดังกล่าวไว้ในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียและในประเทศต่าง ๆ เช่น ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2540 โจทก์ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเลขที่ 349897 คำว่า “JAVACAFE” สำหรับสินค้าจำพวกที่ 30 รายการสินค้ากาแฟ เมล็ดต้นโกโก้ ธัญพืชที่สีแล้ว ธัญพืชที่ยังไม่ได้สี ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกาแฟ และครีมที่ไม่มีส่วนผสมของนมต่อกรมจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2541 จำเลยที่ 2 มีคำสั่งแจ้งแก่โจทก์ว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นเครื่องหมายการค้าที่ไม่มีลักษณะอันพึงรับจดทะเบียน กล่าวคือ ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ เพราะคำว่า “JAVA” เป็นชื่อเกาะชวาในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียที่คนไทยทั่วไปรู้จักนับว่าเป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ ส่วนคำว่า “CAFE” แปลว่า กาแฟหรือภัตตาคารขนาดเล็ก นับว่าเป็นคำสามัญในการค้าขาย ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ และเครื่องหมายการค้าของโจทก์เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วด้วย อันได้แก่เครื่องหมายการค้าคำว่า”SINVINO JAVA TEA STRAIGHT” ตามทะเบียนเลขที่ 141983 คำว่า”JAVA” ตามทะเบียนเลขที่ 140799 และคำว่า “JUMBO JAVA” ตามทะเบียนเลขที่ 154185 โจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 2 ต่อจำเลยที่ 3เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2541 ว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์มีลักษณะบ่งเฉพาะและไม่เป็นการต้องห้ามที่จำเลยที่ 2 จะรับจดทะเบียน และเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าตามที่จำเลยที่ 2 มีคำสั่ง ครั้นวันที่ 17 สิงหาคม 2542 จำเลยที่ 1 ส่งหนังสือแจ้งแก่โจทก์ว่า จำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 ได้มีคำวินิจฉัยที่ 2146/2542ยืนตามคำสั่งปฏิเสธของจำเลยที่ 2 ที่ไม่ให้รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์เสีย โดยวินิจฉัยว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์คำว่า “JAVA” เป็นชื่อเกาะชวาในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย นับว่าเป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ และคำว่า “CAFE” แปลว่า กาแฟหรือภัตตาคารขนาดเล็ก เมื่อนำมาใช้กับสินค้าตามที่ยื่นขอจดทะเบียนนับว่าเป็นสิ่งที่ใช้กันสามัญในการค้าขาย ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ เครื่องหมายการค้าของโจทก์จึงไม่มีลักษณะอันพึงรับจดทะเบียนได้ ส่วนหลักฐานการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่โจทก์นำส่งเพื่อแสดงถึงลักษณะบ่งเฉพาะนั้น ยังไม่เป็นการเพียงพอที่จะแสดงว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์มีลักษณะบ่งเฉพาะ ส่วนประเด็นเรื่องเครื่องหมายการค้าของโจทก์เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนไว้แล้วไม่จำต้องพิจารณา โจทก์เห็นว่าคำสั่งของจำเลยที่ 2และคำวินิจฉัยของจำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 เป็นคำสั่งและคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ การที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ถึงที่ 9 มีคำสั่งและคำวินิจฉัยว่าเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVA” เป็นชื่อทางภูมิศาสตร์และไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะเป็นคำสั่งที่ไม่ได้เป็นไปตามแนววินิจฉัยในการรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่มีชื่อทางภูมิศาสตร์คำเดียวกันกับในคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอื่นและไม่สอดคล้องกับแนวปฏิบัติในการพิจารณาคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่ได้มีมาก่อนหน้าการที่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในคำ ๆ เดียวกันให้แก่ผู้ขอรายอื่นมาก่อนหน้าแต่กลับปฏิเสธไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ภายหลัง ถือเป็นการเลือกปฏิบัติต่อโจทก์ อีกทั้งในการพิจารณาลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย จำเลยที่ 2 และที่ 3 ถึงที่ 9 ได้แยกคำในเครื่องหมายการค้าของโจทก์ออกจากกันและพิจารณาคำดังกล่าวเป็นคำ ๆ ไป ซึ่งโจทก์เห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะเครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นคำ ๆ เดียว แม้จะนำมาแยกออกเป็น 2 คำ และอาจให้ความหมายของแต่ละคำได้แต่โจทก์ก็มิได้มีความมุ่งหมายที่จะใช้เครื่องหมายการค้าของโจทก์ในลักษณะแยกคำกัน โดยโจทก์มุ่งประสงค์ที่จะใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวในลักษณะที่เป็นคำ ๆ เดียวเท่านั้น ดังจะเห็นได้จากการยื่นคำขอจดทะเบียนซึ่งโจทก์ได้แสดงลักษณะเป็นคำ ๆ เดียวตลอดจนข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางการค้าโจทก์ก็ใช้เครื่องหมายการค้าเป็นคำ ๆ เดียวกันการพิจารณาโดยแยกคำดังกล่าวออกจากกันจึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อการพิจารณาลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายและยังขัดต่อเจตนาที่แท้จริงของเจ้าของเครื่องหมายการค้าอีกด้วย ซึ่งโจทก์ก็ได้พยายามหาหลักฐานมาหักล้างแนววินิจฉัยของจำเลยข้างต้นโดยได้แสดงการเผยแพร่ของเครื่องหมายการค้าดังกล่าวด้วยการนำส่งทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” ในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวแก่จำเลยที่ 3 เพื่อพิจารณา แต่จำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 ก็วินิจฉัยว่าการส่งหลักฐานดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะแสดงได้ว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์มีลักษณะบ่งเฉพาะ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดหรือเหตุผลของคำวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งโจทก์ถือว่าเป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าจำเลยที่ 2 ที่สั่งไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ เนื่องจากเป็นเครื่องหมายที่ไม่มีลักษณะอันพึงรับจดทะเบียนได้เพราะไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะตามเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 3 และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าจำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 ที่ยืนตามคำสั่งปฏิเสธของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 6และขอให้จำเลยที่ 1 และนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าดำเนินการเกี่ยวกับคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเลขที่ 349897 ของโจทก์ต่อไป

จำเลยทั้งเก้าให้การว่า คดีนี้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้า จำเลยที่ 2ได้พิจารณาว่าเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” ของโจทก์ไม่มีลักษณะอันพึงรับจดทะเบียนได้ จำเลยที่ 2 จึงมีคำสั่งไม่รับจดทะเบียน ต่อมาโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า และคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าได้วินิจฉัยแล้ว ซึ่งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าย่อมเป็นที่สุด ตามมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องต่อศาลได้อีก อย่างไรก็ตามการที่คณะกรรมการเครื่องหมายการค้าได้พิจารณาและมีมติยืนตามคำสั่งปฏิเสธของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้นได้กระทำไปโดยชอบด้วยกฎหมายโดยสุจริตและเป็นธรรมแล้ว ส่วนที่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้ารับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “SINVINO JAVA TEA STRAIGHT”ตามทะเบียนเลขที่ 141983 และคำว่า “JUMBO JAVA” ตามทะเบียนเลขที่154185 นั้น คำว่า “JAVA” ที่ปรากฏในทะเบียนเลขที่ 141983 เป็นคำประดิษฐ์ที่ประดิษฐ์ตัวอักษรตัว A ดูแตกต่างออกไปจากอักษรภาษาอังกฤษทั่ว ๆ ไปส่วนคำว่า “JAVA” ตามทะเบียนเลขที่ 154185 นั้น นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าก็ให้เจ้าของเครื่องหมายการค้าดังกล่าวปฏิเสธที่จะเป็นเจ้าของแต่ผู้เดียวกล่าวคือ เจ้าของเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไม่มีสิทธิหวงกันคำว่า “JAVA”และการที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวเพราะเมื่อนำมาใช้รวมกับคำว่า “JUMBO” แล้วไม่ได้เล็งถึงลักษณะและคุณสมบัติของสินค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้าตามทะเบียนเลขที่ 154185อย่างเช่นกรณีของโจทก์ที่ใช้คำว่า “JAVA” รวมกับคำว่า “CAFE” ซึ่งเล็งถึงลักษณะและคุณสมบัติของสินค้าตามที่โจทก์ยื่นขอจดทะเบียนไว้ในจำพวกที่ 30 ได้ว่าเป็นกาแฟชวา ดังนั้น หลักเกณฑ์ที่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าใช้วินิจฉัยและถือปฏิบัติมาจึงสอดคล้องกับพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ. 2534 มิใช่เป็นการเลือกปฏิบัติอย่างที่โจทก์เข้าใจ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าจำเลยที่ 2 ตามหนังสือของจำเลยที่ 1 ที่ พณ 0703/7291 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2541ที่ พณ 0703/1378 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2541 และที่ พณ ที่ 0703/1326ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2542 และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าจำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 ที่ 2146/2542 ที่ปฏิเสธไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” ตามคำขอเลขที่ 349897 ของโจทก์และให้จำเลยที่ 1 กับนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าดำเนินการเกี่ยวกับคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” ของโจทก์ตามคำขอเลขที่ 349897 ต่อไป กับให้จำเลยทั้งเก้าใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความให้ 2,000 บาท

จำเลยทั้งเก้าอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ตามที่โจทก์และจำเลยทั้งเก้าไม่ได้โต้แย้งกันว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดตามกฎหมายของประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียประกอบกิจการค้าขายหลักเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม โดยโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” อ่านว่า จาวาคาเฟ่ ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าที่โจทก์ใช้สำหรับสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งโจทก์ได้ผลิตและจำหน่ายในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียและในประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศ โดยโจทก์ได้ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไว้ในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียและในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค เช่น ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โจทก์ได้มอบอำนาจให้นายกิตติตู้จินดา เป็นผู้มีอำนาจฟ้องและดำเนินคดีแทน จำเลยที่ 1 เป็นหน่วยงานราชการ มีฐานะเป็นกรมในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งตามมาตรา 3แห่งพระราชบัญญัติให้โอนอำนาจหน้าที่และกิจการบริหารบางส่วนของกรมทะเบียนการค้ากระทรวงพาณิชย์ และของกรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการให้เป็นของกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์พ.ศ. 2535 กำหนดให้กรมจำเลยที่ 1 มีอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องหมายการค้าและทรัพย์สินทางปัญญาอื่นรวมทั้งดำเนินการด้านกฎหมายตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องหมายการค้าและทรัพย์สินทางปัญญาอื่น เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2540 โจทก์ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” สำหรับสินค้าจำพวกที่ 30รายการสินค้า กาแฟ เมล็ดต้นโกโก้ ธัญพืชที่สีแล้ว ธัญพืชที่ยังไม่ได้สีผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกาแฟและครีมที่ไม่มีส่วนผสมของนม ต่อกรมจำเลยที่ 1 และนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าจำเลยที่ 2 เป็นคำขอเลขที่ 349897 ตามคำขอจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 เอกสารหมาย จ.2 ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2541จำเลยที่ 2 มีคำสั่งแจ้งแก่โจทก์ว่า จำเลยที่ 2 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นเครื่องหมายการค้าที่ไม่มีลักษณะอันพึงรับจดทะเบียนได้ตามมาตรา 6 ของพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ. 2534 กล่าวคือ ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว เพราะคำว่า “JAVA” เป็นชื่อเกาะชวาในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียที่คนไทยทั่วไปรู้จัก นับว่าเป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ขัดต่อมาตรา 7 วรรคสอง (2) แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ส่วนคำว่า “CAFE”แปลว่า กาแฟ หรือภัตตาคารขนาดเล็กนับว่าเป็นคำสามัญในการค้าขายไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะตามมาตรา 7 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวตามคำสั่งนายทะเบียนลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2541 เอกสารหมาย จ.3และยังมีคำสั่งแจ้งแก่โจทก์ด้วยว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วด้วยอันได้แก่เครื่องหมายการค้าคำว่า “SINVINO JAVA TEA STRAIGHT” ตามทะเบียนเลขที่ 141983 เอกสารหมาย จ.7 เครื่องหมายการค้าคำว่า”JAVA” ตามทะเบียนเลขที่ 140799 และเครื่องหมายการค้าคำว่า”JUMBO JAVA” ตามทะเบียนเลขที่ 154185 เอกสารหมาย จ.8 ตามคำสั่งนายทะเบียน ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2541 เอกสารหมาย จ.4 โจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 2 ต่อคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าจำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2541 โดยโต้แย้งคำสั่งของจำเลยที่ 2 ว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์มีลักษณะบ่งเฉพาะและไม่เป็นการต้องห้ามที่จำเลยที่ 2 จะรับจดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าตามที่จำเลยที่ 2 มีคำสั่งตามคำอุทธรณ์เอกสารหมาย จ.5 ครั้นวันที่ 17 สิงหาคม 2542 จำเลยที่ 1ส่งหนังสือแจ้งแก่โจทก์ว่าจำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 ได้มีคำวินิจฉัยที่ 2146/2542ยืนตามคำสั่งปฏิเสธของจำเลยที่ 2 ที่ไม่ให้รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์และให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์เสีย โดยจำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 วินิจฉัยว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์คำว่า “JAVA” เป็นชื่อเกาะชวาในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย นับว่าเป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะตามมาตรา 7 วรรคสอง (2) แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ. 2534 ประกอบกับประกาศกระทรวงพาณิชย์ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2535)และคำว่า “CAFE” แปลว่า กาแฟหรือภัตตาคารขนาดเล็ก เมื่อนำมาใช้กับสินค้าตามที่ยื่นขอจดทะเบียนนับว่าเป็นสิ่งที่ใช้กันสามัญในการค้าขายไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะตามมาตรา 7 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติเดียวกันเมื่อปรากฏข้อเท็จจริงดังกล่าวเครื่องหมายการค้าของโจทก์จึงไม่มีลักษณะอันพึงรับจดทะเบียนได้ตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ. 2534 ส่วนหลักฐานการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่โจทก์นำส่งเพื่อแสดงถึงลักษณะบ่งเฉพาะนั้น ยังไม่เป็นการเพียงพอที่จะแสดงว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์มีลักษณะบ่งเฉพาะ ส่วนประเด็นเรื่องเครื่องหมายการค้าของโจทก์เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนไว้แล้วตามทะเบียนเลขที่ 141983 ทะเบียนเลขที่ 140799 และทะเบียนเลขที่ 154185คณะกรรมการเครื่องหมายการค้าไม่จำต้องพิจารณาตามคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าที่ 2146/2542 เอกสารหมาย จ.6

มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งเก้าเป็นข้อแรกว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่ไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ถึงที่สุดตามคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า ตามมาตรา 18 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 หรือไม่ เห็นว่าแม้ตามมาตรา 18 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวจะบัญญัติให้คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าเป็นที่สุดก็ตามแต่หากคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าเป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ผู้อุทธรณ์ย่อมมีสิทธินำคดีมาฟ้องต่อศาลเพื่อขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยดังกล่าวได้ คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องมีใจความว่า โจทก์ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” นายทะเบียนเครื่องหมายการค้ามีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวให้แก่โจทก์โดยให้เหตุผลว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ จึงไม่มีลักษณะอันพึงรับจดทะเบียนได้เพราะคำว่า “JAVA” เป็นเกาะชวาในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย นับเป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ และคำว่า “CAFE” แปลว่า กาแฟ หรือภัตตาคารขนาดเล็กนับว่าเป็นคำสามัญ นอกจากนี้เครื่องหมายการค้าของโจทก์เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว ได้แก่เครื่องหมายการค้าคำว่า “SINVINO JAVA TEA STRAIGHT” และคำว่า”JAMBO JAVA” โจทก์อุทธรณ์คณะกรรมการเครื่องหมายการค้ามีคำวินิจฉัยยืนตามคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้า โจทก์เห็นว่า คำสั่งและคำวินิจฉัยดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะก่อนหน้านี้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าเคยรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่มีคำว่า “JAVA”ประกอบอยู่ด้วยอย่างเช่นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ถือว่านายทะเบียนเครื่องหมายการค้าและคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าไม่ใช้หลักเกณฑ์ในการพิจารณารับจดทะเบียนให้เป็นแนวเดียวกัน เป็นการเลือกปฏิบัติต่อโจทก์ ทั้งการพิจารณาลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าและคณะกรรมการเครื่องหมายการค้ายังได้แยกคำในเครื่องหมายการค้าของโจทก์ออกพิจารณาเป็นคำ ๆ ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะเครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นคำ ๆ เดียว และเจตนาใช้เป็นคำ ๆ เดียว นอกจากนี้ที่คณะกรรมการเครื่องหมายการค้าจำเลยที่ 3ถึงที่ 9 วินิจฉัยว่า การที่โจทก์ส่งหลักฐานการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” ในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวนั้นยังไม่เพียงพอที่จะแสดงได้ว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์มีลักษณะบ่งเฉพาะจำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 ก็ไม่ได้ให้เหตุผลแต่อย่างใด ขอให้เพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้ากับขอให้จำเลยที่ 1 และนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าดำเนินการเกี่ยวกับคำขอจดทะเบียน เครื่องหมายการค้าของโจทก์ต่อไปดังนี้ เห็นได้ชัดว่าคำฟ้องของโจทก์ได้โต้แย้งคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าโดยอ้างว่าคำสั่งและคำวินิจฉัยนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว คำสั่งและคำวินิจฉัยที่ไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องคดีต่อศาลขอให้เพิกถอนคำสั่งและคำวินิจฉัยดังกล่าวได้ อุทธรณ์ข้อนี้ของจำเลยทั้งเก้าฟังไม่ขึ้น

มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยต่อไปตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งเก้าว่าคำสั่งของจำเลยที่ 2 และคำวินิจฉัยของจำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 ที่ไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” นั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่าตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 6 บัญญัติว่า”เครื่องหมายการค้าอันพึงรับจดทะเบียนได้ ต้องประกอบด้วยลักษณะดังต่อไปนี้

(1) เป็นเครื่องหมายการค้าที่มีลักษณะบ่งเฉพาะ

(2) เป็นเครื่องหมายการค้าที่ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามพระราชบัญญัตินี้ และ

(3) ไม่เป็นเครื่องหมายการค้าที่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าที่บุคคลอื่นได้จดทะเบียนไว้แล้ว”

มาตรา 7 วรรคแรก บัญญัติว่า “เครื่องหมายการค้าที่มีลักษณะบ่งเฉพาะได้แก่ เครื่องหมายการค้าอันมีลักษณะที่ทำให้ประชาชนหรือผู้ใช้สินค้านั้นทราบและเข้าใจได้ว่าสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้านั้นแตกต่างไปจากสินค้าอื่น”

และในวรรคสอง บัญญัติว่า “เครื่องหมายการค้าที่มีหรือประกอบด้วยลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นสาระสำคัญดังต่อไปนี้ให้ถือว่ามีลักษณะบ่งเฉพาะ…

(2) คำหรือข้อความอันไม่ได้เล็งถึงลักษณะหรือคุณสมบัติของสินค้านั้นโดยตรง และไม่เป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด…”

โจทก์ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” เป็นอักษรโรมันในลักษณะของคำที่เขียนติดกัน และแปลความหมายตามพจนานุกรมไม่ได้ แต่สิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญของเครื่องหมายการค้าของโจทก์นอกจากอักษรโรมันที่เขียนติดกันจำนวน 8 พยางค์แล้ว สำเนียงเรียกขานก็ถือเป็นส่วนสาระสำคัญของเครื่องหมายการค้าของโจทก์ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะสามารถทำให้ประชาชนผู้ใช้สินค้านั้นทราบและเข้าใจได้ว่าสินค้าที่มีเสียงเรียกขานของเครื่องหมายการค้านั้นแตกต่างจากสินค้าอื่น คำว่า “JAVACAFE”แม้จะเขียนติดต่อเป็นคำเดียวกัน แต่คำว่า “JAVA” และ “CAFE” สามารถแยกออกจากกันได้และสามารถแปลความหมายตามพจนานุกรมได้ คำว่า”JAVA” เรียกขานว่า “จาวา” หมายถึงชื่อเกาะในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียซึ่งประชาชนโดยทั่วไปรู้จักดีว่าหมายถึงเกาะชวาในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2535) เรื่อง การกำหนดชื่อทางภูมิศาสตร์ ตามมาตรา 7 วรรคสอง (2) แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 ตามเอกสารหมาย ล.1รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กำหนดให้ชื่อเมืองท่า จังหวัด อำเภอตำบล มณฑล เกาะ ภูเขา แม่น้ำ ทะเลหรือทะเลสาบที่ประชาชนโดยทั่วไปรู้จักเป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ ตามมาตรา 7 วรรคสอง (2) ดังนั้น คำว่า “JAVA”หรือ “จาวา” จึงเป็นคำที่ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะส่วน คำว่า “CAFE” เรียกขานว่าคาเฟ่ ความหมายตามพจนานุกรม หมายถึง กาแฟ หรือภัตตาคารขนาดเล็กจึงถือเป็นคำสามัญไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะเช่นเดียวกัน เมื่อนำคำ 2 คำดังกล่าวมาเขียนติดกันเป็น “JAVACAFE” สำเนียงเรียกขานก็จะเป็นจาวาคาเฟ่ จะเห็นได้ว่าทั้งตัวอักษรโรมันและสำเนียงเรียกขานยังคงเดิมและแม้จะแปลไม่ได้แต่สามารถสื่อความหมายให้คนทั่วไปได้เข้าใจว่าหมายถึงกาแฟที่มีแหล่งกำเนิดมาจากเกาะชวาในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียการที่โจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าซึ่งมีเพียงอักษรโรมันคำว่า “JAVACAFE” เป็นส่วนสาระสำคัญแต่เพียงอย่างเดียวเพื่อใช้กับสินค้าจำพวกที่ 30 รายการสินค้า กาแฟ เมล็ดต้นโกโก้ ธัญพืชที่สีแล้ว ธัญพืชที่ยังไม่ได้สี ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกาแฟและครีมที่ไม่มีส่วนผสมของนมเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2540 จึงเห็นได้ชัดว่าตัวอักษรโรมันที่สะกดเป็นคำทั้งหมดไม่ว่าจะออกสำเนียงแยกเป็นคำหรือรวมกัน เสียงเรียกขานก็ไม่แตกต่างกันและสื่อความหมายให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นเครื่องหมายการค้าที่เล็งถึงลักษณะและแหล่งกำเนิดของสินค้านั้นโดยตรง จึงเป็นเครื่องหมายการค้าที่ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะตามมาตรา 7 วรรคสอง (2) แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 ซึ่งนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าไม่อาจรับจดทะเบียนให้ได้เพราะไม่เข้าลักษณะเป็นเครื่องหมายการค้าที่มีลักษณะบ่งเฉพาะตามมาตรา 6(1) แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ส่วนการที่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าเคยรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่มีคำอักษรโรมันว่า “JAVA” อ่านว่า จาวา ร่วมกับคำอื่นมาแล้ว คือเครื่องหมายการค้าคำว่า “SINVINO JAVA TEA STRAIGHT” ตามทะเบียนเลขที่ 141983เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2532 สำหรับสินค้าจำพวกที่ 42 รายการสินค้า ชาและคำว่า “JUMBO JAVA” ตามทะเบียนเลขที่ 154185 เมื่อวันที่ 29 มกราคม2534 สำหรับสินค้าจำพวกที่ 42 รายการสินค้า กาแฟ ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 นั้น แม้ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ. 2474 มาตรา 4(4) จะบัญญัติว่า “ท่านว่าสิ่งอันกล่าวต่อไปนี้เป็นสาระสำคัญต้องมีสิ่งหนึ่งเป็นอย่างน้อยอยู่ในเครื่องหมายการค้าอันพึงรับจดทะเบียนได้

(4) คำเดียวหรือหลายคำอันไม่ได้เล็งถึงลักษณะหรือคุณสมบัติแห่งสินค้าโดยตรงและตามความหมายอันเข้าใจกันโดยธรรมดา ไม่เป็นชื่อในภูมิศาสตร์หรือนามสกุล” ก็ตาม แต่เครื่องหมายการค้าดังกล่าวมิได้มีแต่คำว่า “JAVA” อันเป็นชื่อในภูมิศาสตร์ หรือคำว่า “TEA” ซึ่งเป็นคำที่เล็งถึงลักษณะและคุณสมบัติแห่งสินค้าโดยตรงเท่านั้น แต่ยังมีคำอื่นที่มีลักษณะบ่งเฉพาะประกอบอยู่ด้วย จึงอาจได้รับการจดทะเบียนได้ตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 ซึ่งเป็นบทกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะจดทะเบียน นอกจากนี้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวมิได้มีแต่เพียงคำว่า “JAVA” ซึ่งเป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ที่ประชาชนโดยทั่วไปรู้จักและมีคำว่า “CAFE” ซึ่งเป็นคำอันได้เล็งถึงลักษณะหรือคุณสมบัติของสินค้ากาแฟโดยตรงอย่างเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE”ของโจทก์ซึ่งไม่อาจรับจดทะเบียนได้เพราะไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะตามมาตรา 6(1) ประกอบมาตรา 7 วรรคสอง (2) แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 และการที่โจทก์ส่งหลักฐานการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” ในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวต่อคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าจำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 ก็มิใช่หลักฐานแสดงการจำหน่ายแพร่หลายหรือโฆษณาสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” ในประเทศไทยแล้วอันจะถือได้ว่าเครื่องหมายการค้าดังกล่าวมีลักษณะบ่งเฉพาะตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 7 วรรคท้ายแห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 สำหรับในกรณีที่เครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” ของโจทก์ได้รับการจดทะเบียนมาแล้วในหลายประเทศก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละประเทศที่จะวางหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอย่างไรและความเห็นของนายทะเบียนในประเทศนั้น ๆไม่อาจนำมาเป็นเหตุผลให้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าต้องรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์โดยไม่ต้องพิจารณาถึงหลักเกณฑ์ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 ได้ เมื่อเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 7 วรรคสอง (2)และวรรคท้ายแห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 อันนายทะเบียนไม่อาจรับจดทะเบียนได้ ตามมาตรา 6(1) แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว คำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้า จำเลยที่ 2 และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า จำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 ที่ไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “JAVACAFE” ของโจทก์จึงเป็นคำสั่งและคำวินิจฉัยที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ข้อนี้ของจำเลยทั้งเก้าฟังขึ้น”

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

Share