คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยลักโช้กอัพ 1 คู่ ราคา 1,300 บาทอันเป็นส่วนประกอบของรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า หมายเลขตัวถัง37 เค -002452 ของผู้มีชื่อ ซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลรับผิดชอบของพันตำรวจโทวัชร เข็มศักดิ์สิทธิ์ เจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจนครบาลปทุมวันผู้เสียหายและจอดเก็บรักษาอยู่ที่บริเวณสถานีตำรวจนครบาลปทุมวันดังนี้เป็นการบรรยายข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับบุคคลและทรัพย์ที่ถูกลักไว้พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้แล้วว่า ทรัพย์ที่จำเลยลักไปเป็นของผู้อื่นซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลรับผิดชอบของเจ้าพนักงานตำรวจ ทั้งจำเลยให้การรับสารภาพมิได้หลงต่อสู้ฟ้องโจทก์สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5).

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58, 335กับพวกโทษที่ศาลแขวงพระนครเหนือรอการลงโทษจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ 18792/2526 เข้ากับโทษในคดีนี้
จำเลยให้การรับสารภาพและรับว่าเคยถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก แต่ให้รอการลงโทษไว้ตามที่ฟ้องจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 58, 335 จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี 6 เดือน เอาโทษที่ศาลแขวงพระนครเหนือรอการลงโทษไว้มาบวกกับโทษในคดีนี้เป็นจำคุก 1 ปี 7 เดือน 15 วัน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาจำเลยเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์มิได้บรรยายฟ้องให้แน่ชัดว่า รถจักรยานยนต์คันสีฟ้ายี่ห้อยามาฮ่าเป็นของผู้ใด ทะเบียนหมายเลขอะไรเป็นฟ้องเคลือบคลุม นั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยลักโช้กอัพ 1 คู่ ราคา 1,300 บาท อันเป็นส่วนประกอบของรถจักรยานยนต์คันสีฟ้า ยี่ห้อยามาฮ่าหมายเลขตัวถัง 37 เค-002452 ของผู้มีชื่อ ซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลรับผิดชอบของพันตำรวจโทวัชร เข็มศักดิ์สิทธิ์ เจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ผู้เสียหาย และจอดเก็บรักษาอยู่ที่บริเวณสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เห็นว่า ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับบุคคลและทรัพย์ที่ถูกลักไปโจทก์ได้บรรยายไว้พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้แล้วว่า ทรัพย์ที่จำเลยลักไปเป็นของผู้อื่นซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลรับผิดชอบของเจ้าพนักงานตำรวจ ทั้งจำเลยให้การรับสารภาพมิได้หลงต่อสู้แต่อย่างใด ฟ้องโจทก์ย่อมสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) ศาลล่างทั้งสองพิพากษามาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share