แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่โจทก์ร่วมมอบเศษอคริลิคไฟเบอร์ให้จำเลยนำไปขายนั้น เป็นกรณีที่จำเลยสามารถขายเศษอคริลิคไฟเบอร์ได้ตามราคาที่จำเลยได้ต่อรองกับฝ่ายผู้ซื้อ และเป็นการขายในนามของร้านค้าจำเลยเอง มิใช่ในนามของโจทก์ร่วม เงินที่ได้จากการขายเศษอคริลิคไฟเบอร์จึงตกเป็นของจำเลยจำเลยมีหน้าที่ต้องชดใช้ราคาเศษอคริลิคไฟเบอร์และแบ่งผลกำไรที่ได้ให้แก่โจทก์ร่วมเท่านั้น จำเลยมิได้ครอบครองเงินที่ได้จากการขายเศษอคริลิคไฟเบอร์ไว้แทนโจทก์ร่วม เมื่อจำเลยไม่คืนเงินนั้นให้แก่โจทก์ร่วม จึงเป็นการผิดสัญญาในทางแพ่งเท่านั้น ไม่เป็นความผิดฐานยักยอก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับมอบเศษอคริลิคไฟเบอร์จำนวน 62,590 กิโลกรัม จากบริษัทไทยอคริลิคไฟเบอร์ จำกัด อันเป็นทรัพย์ของบริษัทเมอคันไทล เทรเดอ (กรุงเทพฯ) จำกัด ผู้เสียหายที่สั่งซื้อมาจากบริษัทดังกล่าวไว้ในครอบครอง โดยจำเลยมีหน้าที่แยกเศษอคริลิคไฟเบอร์ดังกล่าวและติดต่อขายแล้วนำเงินที่ได้จากการขายดังกล่าวมอบให้แก่ผู้เสียหายตามคำสั่งของผู้เสียหาย แต่จำเลยไม่กระทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย จำเลยเบียดบังเงินจำนวน 631,450.66 บาท ของผู้เสียหายซึ่งได้จากการขายเศษอคริลิคไฟเบอร์ดังกล่าวในขณะเงินนั้นอยู่ในความครอบครองของจำเลยไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 และให้จำเลยคืนเงินจำนวน 631,450.66 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา บริษัทเมอคันไทล เทรเดอ (กรุงเทพฯ) จำกัด ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ร่วม
โจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยฟังข้อเท็จจริงว่าการที่โจทก์ร่วมมอบเศษอคริลิคไฟเบอร์ให้จำเลยนำไปขายนั้น เป็นกรณีที่จำเลยสามารถขายเศษอคริลิคไฟเบอร์ได้ตามราคาที่ได้ต่อรองกับฝ่ายผู้ซื้อ และเป็นการขายในนามของร้านค้าจำเลยเอง มิใช่ในนามของโจทก์ร่วม เงินที่ได้จากการขายเศษอคริลิคไฟเบอร์จึงตกเป็นของจำเลย จำเลยมีหน้าที่ต้องชดใช้ราคาเศษอคริลิคไฟเบอร์และแบ่งผลกำไรที่ได้ให้แก่โจทก์ร่วมเท่านั้น มิใช่เป็นเรื่องที่จำเลยครอบครองเงินที่ได้จากการขายเศษอคริลิคไฟเบอร์ไว้แทนโจทก์ร่วม เมื่อจำเลยไม่คืนเงินนั้นให้แก่โจทก์ร่วมตามข้อตกลง จึงเป็นการผิดสัญญาในทางแพ่งเท่านั้น ไม่เป็นความผิดฐานยักยอกคดี จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 การที่โจทก์ร่วมอุทธรณ์ว่าโจทก์ร่วมมอบเศษอคริลิคไฟเบอร์ให้จำเลยไปขายโดยประสงค์จะรับเงินค่าเศษอคริลิคไฟเบอร์ดังกล่าว และกำไรที่ได้จากการขายนั้น ถือว่าจำเลยเป็นหุ้นส่วนกับโจทก์ร่วมจำเลยมีหน้าที่ต้องส่งมอบเงินหรือเช็คที่ได้รับจากผู้ซื้อสินค้า จึงเป็นกรณีที่จำเลยครอบครองทรัพย์ของผู้อื่นหรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย การที่จำเลยไม่ส่งมอบเงินหรือเช็คให้แก่โจทก์ร่วมจึงเป็นความผิดฐานยักยอกนั้น เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลชั้นต้น อันเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้โจทก์ร่วมอุทธรณ์ตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมนั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ร่วมฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน