คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5527/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยมีกัญชาเป็นถุงใหญ่ 1 ถุง และแบ่งเป็นถุงเล็กอีก 8 ถุงไว้ในครอบครอง แสดงว่าจำเลยแบ่งกัญชาเตรียมไว้เพื่อจำหน่าย จึงมีความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีกัญชาจำนวน 1 ถุงใหญ่กับ 8 ถุงเล็กรวมน้ำหนัก 800 กรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำเลยจำหน่ายกัญชาบางส่วนซึ่งมีไว้ดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ 2 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 3879/2530 ของศาลชั้นต้น ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 26, 75, 76, 92, 102
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 76 วรรคแรก ให้จำคุก 6 เดือนและปรับ 7,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปีไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 คำขออื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 76 วรรคสอง ให้จำคุก 2 ปีลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี4 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟังได้ว่าจำเลยมีกัญชา 1 ถุงใหญ่ และ8 ถุงเล็กของกลางไว้ในครอบครอง ฯลฯ การที่จำเลยมีกัญชาเป็นถุงใหญ่ 1 ถุง และแบ่งเป็นถุงเล็กอีก 8 ถุง แสดงว่าจำเลยแบ่งกัญชาเตรียมไว้เพื่อจำหน่าย จำเลยจึงมีกัญชาของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษให้นั้นเห็นว่าศาลอุทธรณ์กำหนดโทษเหมาะสมแก่รูปคดีแล้ว ฯลฯ
พิพากษายืน.

Share