คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4866/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ลาออกจากการเป็นลูกจ้างของจำเลยถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยแล้วมีสิทธิได้รับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การที่จำเลยกลับมีคำสั่งไล่โจทก์ออกจากงานเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะจำเลยมีเจตนากลั่นแกล้งที่จะไม่จ่ายเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้แก่โจทก์ขอให้บังคับจำเลยจ่ายเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและเพิกถอนคำสั่งเรื่องไล่ออกจากงานของจำเลย จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 3 วันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควรเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ศาลแรงงานกลางกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่ามีเหตุจะเพิกถอนคำสั่งของจำเลยเรื่องไล่ออกจากงานหรือไม่ และจำเลยต้องจ่ายเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแก่โจทก์หรือไม่ เช่นนี้ การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยพยานหลักฐานและพฤติการณ์ต่าง ๆ ของจำเลยที่กระทำต่อโจทก์ว่า ก่อนที่โจทก์จะยื่นใบลาออก จำเลยมีคำสั่งย้ายโจทก์ ถือว่าเป็นการลดตำแหน่งและจำเลยไม่พิจารณาขึ้นเงินเดือนกับจ่ายเงินโบนัสให้แก่โจทก์โดยไม่เคยกล่าวหาว่าโจทก์กระทำผิดหรือตั้งกรรมการสอบสวนความผิดเมื่อถึงกำหนดใบลาออก โจทก์มิได้ไปทำงานจำเลยมิได้ไล่โจทก์ออกจากงานในเวลาที่สมควรนั้น เพื่อให้เห็นว่าจำเลยกลั่นแกล้งโจทก์ เป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต อันจะเชื่อมโยงให้เห็นว่าคำสั่งของจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นเหตุให้ศาลแรงงานกลางเพิกถอนคำสั่งของจำเลยได้ จึงเป็นการวินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทโดยตรง มิใช่นอกฟ้องนอกประเด็น.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลย เมื่อวันที่ 30พฤษภาคม 2532 โจทก์ยื่นใบลาออกจากการเป็นลูกจ้างของจำเลยโดยกำหนดว่าจะทำงานอยู่จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2532 ซึ่งถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยแล้ว โจทก์มีสิทธิได้รับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แต่จำเลยไม่ยอมจ่ายให้ ต่อมาเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2533 จำเลยมีคำสั่งไล่โจทก์ออกจากงานอ้างว่าโจทก์ขาดงานเกินกว่า 3 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และอ้างเหตุดังกล่าวไม่จ่ายเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้แก่โจทก์การที่จำเลยมีคำสั่งไล่โจทก์ออกจากงานเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้บังคับจำเลยจ่ายเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพร้อมดอกเบี้ย และเพิกถอนคำสั่งเรื่องไล่ออกจากงาน
จำเลยให้การว่า เมื่อโจทก์ยื่นใบลาออก จำเลยเห็นว่าโจทก์ยังปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายไม่เสร็จสิ้น จึงมีคำสั่งไม่อนุมัติให้โจทก์ลาออกและได้แจ้งคำสั่งให้โจทก์ทราบแล้ว แต่โจทก์กลับไม่ยอมไปทำงาน จำเลยจึงมีคำสั่งไล่โจทก์ออกจากงานเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2533 เนื่องจากละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 3 วันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควร การกระทำของโจทก์เป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับการทำงานของจำเลย โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า มีเหตุจะเพิกถอนคำสั่งของจำเลยเรื่องไล่ออกจากงานหรือไม่ และจำเลยจะต้องจ่ายเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพร้อมดอกเบี้ยตามฟ้องให้แก่โจทก์หรือไม่เพียงใด
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ก่อนที่โจทก์จะยื่นใบลาออกจำเลยมีคำสั่งย้ายโจทก์ ถือว่าเป็นการลดตำแหน่ง และจำเลยไม่พิจารณาขึ้นเงินเดือนกับจ่ายเงินโบนัสให้แก่โจทก์ โดยไม่เคยกล่าวหาว่าโจทก์กระทำผิดหรือตั้งกรรมการสอบสวนความผิดเมื่อถึงกำหนดใบลาออกโจทก์มิได้ไปทำงาน จำเลยมิได้ไล่โจทก์ออกจากงานในเวลาที่สมควร การกระทำของจำเลยประกอบพฤติการณ์แห่งคดีเชื่อว่าการที่จำเลยไม่อนุมัติให้โจทก์ลาออก จำเลยมีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ และเป็นการไม่สุจริต ไม่อาจอ้างเหตุไม่ไปทำงานเป็นเหตุไล่โจทก์ออกจากงานได้ พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยเรื่องไล่ออกจากงาน และให้จำเลยจ่ายเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ข้อต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยมีว่าศาลแรงงานกลางวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็นหรือไม่โดยจำเลยอุทธรณ์ว่า ศาลแรงงานกลางกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่ามีเหตุจะเพิกถอนคำสั่งเรื่องไล่ออกจากงาน และจำเลยจะต้องจ่ายเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือไม่ เพียงใด จึงต้องพิจารณาเพียงว่าคำสั่งไล่ออกของจำเลยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่ศาลแรงงานกลางกลับพิจารณาถึงเรื่องจำเลยใช้สิทธิโดยไม่สุจริตกลั่นแกล้งโจทก์ไม่ให้โจทก์ลาออกจากงาน เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นนั้น เห็นว่าการที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยพยานหลักฐานและพฤติการณ์ต่าง ๆของจำเลยที่กระทำต่อโจทก์ เพื่อให้เห็นว่าจำเลยกลั่นแกล้งโจทก์เป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต อันจะเชื่อมโยงให้เห็นว่าคำสั่งของจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นเหตุให้ศาลแรงงานกลางเพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่พิพาทกันได้ จึงเป็นการวินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทโดยตรง มิใช่วินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น
พิพากษายืน.

Share