คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2051/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐาน มีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 76ลดโทษแล้วจำคุก 2 ปี 8 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษฐาน มีกัญชาไว้ในครอบครองโดย ไม่ได้รับอนุญาตตาม มาตรา 76 วรรคแรกซึ่ง เป็นมาตราเดียว กัน ลดโทษแล้วคงจำคุก 1 ปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้าม ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคแรก.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 6, 7, 8, 26, 75, 76, 102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และริบกัญชาของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธฐานมีกัญชาไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายกัญชา แต่ให้การรับสารภาพฐานมีกัญชาไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 6, 7, 8, 26, 75, 76, 102ฐานมีกัญชาไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุม เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก 2 ปี 8 เดือน ข้อหาอื่นให้ยกของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานมีกัญชาไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 26 วรรคแรก, 76 วรรคแรก จำคุก 2 ปีจำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 76 จำคุก 2 ปี 8 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา76 วรรคแรก ซึ่งเป็นมาตราเดียวกันลดโทษแล้วคงจำคุก 1 ปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ฎีกาของโจทก์ที่ว่าจำเลยมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าวศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาโจทก์.

Share