แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์ทั้งสองและจำเลยที่ 1 ตกลงให้จำเลยที่ 1 เปียแชร์ไปชำระค่าเสียหายที่โจทก์ที่ 2 ทำละเมิดต่อบุตรจำเลย และโจทก์จะเป็นผู้ส่งเงินแชร์แทนข้อตกลงดังกล่าวเป็นการระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับค่าเสียหายที่โจทก์ที่ 2 ก่อขึ้น จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความเมื่อมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด จึงไม่อาจบังคับตามข้อตกลงดังกล่าวได้ จำเลยต้องชำระเงินแชร์ที่โจทก์ทั้งสองออกแทนไป.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นสามีภรรยากันและเป็นนายวงแชร์จำเลยทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน และเข้าเล่นแชร์กับโจทก์ 2 มือต่อมาจำเลยทั้งสองเปียแชร์มือที่ 1 ที่ 2 ได้ จำเลยทั้งสองได้รับเงินแชร์ไปแล้วทั้งสองมือ หลังจากนั้นจำเลยทั้งสองได้ส่งเงินแชร์ให้โจทก์ต่อมา แต่เมื่อถึงงวดวันที่ 25 ธันวาคม 2527 จำเลยไม่ส่งเงินแชร์ให้แก่โจทก์ เมื่อนับแต่งวดดังกล่าวถึงงวดวันที่ 25พฤษภาคม 2528 อันเป็นงวดสุดท้ายรวม 6 เดือน เป็นเงิน 6,000 บาทจำเลยทั้งสองไม่ส่งเงินแชร์ให้แก่โจทก์ โจทก์จึงต้องชำระเงินให้ลูกวงที่เปียแชร์ได้แทน ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองใช้เงินจำนวน 6,281.25 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 6,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยส่งเงินแชร์ให้แก่โจทก์ตลอดมาต่อมาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2527 นางสาวนพมาศ บุญอิ่ม บุตรสาวจำเลยเช่าซื้อรถยนต์ปิกอัพ 1 คัน มาจากห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยธาดาลพบุรี และนำไปจอดไว้ที่บริเวณหน้าบ้านจำเลย โจทก์ที่ 2ขึ้นไปหมุนกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ติดพุ่งไปชนกำแพงห้องน้ำ ด้านหน้ารถพังยับเยิน กันชนและบังโคลนซ้ายบุบสลาย โจทก์จำเลยและนางสาวนพมาศพากันไปตกลงเปลี่ยนรถคันใหม่ ห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยธาดาลพบุรียอมรับคืน แต่ต้องชดใช้เงิน 24,000 บาท โจทก์ตกลงเป็นผู้ออกเงินแต่ไม่มีเงินที่จะชำระให้ทั้งหมด จึงตกลงให้คำสั่นสัญญากับจำเลยและนางสาวนพมาศ โดยโจทก์รับโอนหนี้แชร์พิพาทไปเป็นของโจทก์และรับเป็นผู้ส่งแชร์เดือนละ 1,000 บาท จนครบ 6 เดือน เป็นเงิน6,000 บาท กับแชร์อีกวงหนึ่งซึ่งโจทก์เป็นนายวง จำเลยร่วมเล่นด้วย 1 มือ มือละ 1,000 บาท แต่จำเลยยังไม่ได้เปีย โจทก์ให้จำเลยเปียเพื่อนำเงินไปชำระให้แก่ห้างและโจทก์รับเป็นผู้ส่งเงินแชร์ดังกล่าวแทนจำเลย จำเลยไม่ได้เป็นฝ่ายผิดนัดจึงไม่ต้องชำระเงินแชร์แก่โจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้มีปัญหาเฉพาะข้อกฎหมายมาสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกาซึ่งศาลฎีกาจักต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมา คดีนี้ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า โจทก์ทั้งสองและจำเลยทั้งสองเล่นแชร์กันมีผู้เล่นทั้งหมด 23 มือ มือละ 500 บาทโจทก์ทั้งสองเป็นนายวง และจำเลยทั้งสองเป็นลูกวงเล่นจำนวน 2 มือจำเลยทั้งสองเปียแชร์แล้วทั้งสองมือและส่งเงินแชร์ถึงงวดวันที่ 25พฤศจิกายน 2527 แล้วไม่ส่งเงินแชร์ให้แก่โจทก์อีกจนถึงงวดสุดท้ายรวม6 เดือน เป็นเงิน 6,000 บาท และโจทก์กับจำเลยที่ 1 ยังเล่นแชร์มือละ 1,000 บาท อีก 1 วง เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2527 นางสาวนพมาศ บุญอิ่ม บุตรสาวจำเลยทั้งสองเข้าซื้อรถยนต์ปิกอัพ 1 คันจากห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยธาดาลพบุรีและนำมาจอดไว้ที่บริเวณหน้าบ้านจำเลยทั้งสอง โจทก์ที่ 2 ขึ้นไปสตาร์ทรถยนต์ดังกล่าวเป็นเหตุให้รถแล่นไปชนผนังห้องน้ำได้รับความเสียหาย โจทก์ทั้งสองและจำเลยที่ 1 กับนางสาวนพมาศได้นำรถดังกล่าวไปเปลี่ยนใหม่ห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยธาดาลพบุรีคิดค่าเสียหายในการเปลี่ยนรถโจทก์ทั้งสองยอมชดใช้ค่าเสียหายแทนนางสาวนพมาศ แต่เนื่องจากโจทก์ทั้งสองไม่มีเงินพอ โจทก์ทั้งสองและจำเลยที่ 1 จึงตกลงให้จำเลยที่ 1 เปียแชร์วงมือละ 1,000 บาท ไปชำระค่าเสียหายดังกล่าวและโจทก์จะเป็นผู้ส่งเงินแชร์วงดังกล่าวและแชร์วงมือละ 500 บาทคดีนี้แทน มีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ทั้งสองที่จะต้องวินิจฉัยว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความหรือหักกลบลบหนี้
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นการระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับค่าเสียหายที่โจทก์ที่ 2 ทำละเมิดต่อนางสาวนพมาศจึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ เมื่อมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด จึงไม่อาจบังคับตามข้อตกลงดังกล่าวได้ จำเลยทั้งสองจึงต้องชำระเงินแชร์ที่โจทก์ทั้งสองได้ออกแทนไปเป็นเงิน 6,000 บาท และหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้เงิน โจทก์ทั้งสองมีสิทธิคิดดอกเบี้ยได้ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันผิดนัด คดีนี้เป็นการเล่นแชร์ จำเลยทั้งสองต้องส่งเงินแชร์ให้แก่โจทก์ทั้งสองเดือนละ 1,000 บาท จำเลยทั้งสองผิดนัดตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2527 จึงต้องคิดดอกเบี้ยในต้นเงิน1,000 บาท ของแต่ละงวดถึงวันฟ้อง คิดเป็นดอกเบี้ย 182.57 บาท…”
พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ทั้งสองจำนวน 6,187.57 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในต้นเงิน 6,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ.