แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 และประเภท 2 เป็นความผิดที่มีบทความผิดและบทลงโทษคนละมาตรากัน จึงเป็นความผิดต่างกระทงกันเมื่อตามฟ้องโจทก์มีความผิดเพียง 2 กระทง แม้โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องแยกเป็นรายกระทง ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าเป็นความผิด 2 กระทงทั้งคำฟ้องตอนต้นได้บรรยายแล้วว่าเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระและคำขอท้ายฟ้องก็อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ไว้แล้วศาลจึงมีอำนาจลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 15, 16, 17, 65, 66, 68, 69, 102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 65 วรรคสอง, 66 วรรคสอง, 68 วรรคสอง,69 วรรคสี่ ความผิดฐานผลิตมอร์ฟีนเพื่อผลิตเป็นเฮโรอีนและฐานผลิตเฮโรอีนเพื่อจำหน่ายแล้วมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นการกระทำกรรมเดียวกัน ลงโทษฐานผลิตเฮโรอีนเพื่อจำหน่ายและฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 มอร์ฟีน ฝิ่นและโคคาอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 4, 7, 15 วรรคสอง, 16, 17 วรรคสอง,66 วรรคแรก, 69 วรรคสี่ เป็นความผิดกรรมเดียวกัน ลงโทษฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยผลิตยาเสพติดให้โทษตามฟ้อง คงฟังได้เพียงว่าจำเลยมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 และประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายปัญหาว่าจะลงโทษจำเลยทุกกระทงความผิดได้หรือไม่ เห็นว่าความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 และประเภท 2 เป็นความผิดที่มีบทความผิดและบทลงโทษคนละมาตรากัน จึงเป็นความผิดต่างกระทงอย่างชัดแจ้ง ตามฟ้องของโจทก์กรณีนี้มีความผิดเพียง 2 กระทงเท่านั้น ไม่สับสน แม้โจทก์ไม่บรรยายฟ้องแยกเป็นกระทง ๆ ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าเป็นความผิด 2 กระทง ทั้งคำฟ้องตอนต้นได้บรรยายไว้แล้วว่าเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน คำขอท้ายฟ้องก็อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ไว้แล้วศาลจึงมีอำนาจลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดได้
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เรียงกระทงลงโทษจำเลย.