แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายทั้งสามซึ่งเป็นประจักษ์พยานมาเบิกความต่อศาลคงมีแต่เพียงคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายทั้งสามที่ได้กระทำลับหลังจำเลย กับคำเบิกความของเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุม และพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นเพียงพยานที่ได้รับคำบอกเล่าจากผู้เสียหายว่าจำเลยเป็นคนร้ายเท่านั้น พยานหลักฐานโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงนายฮามิ สามะ นางมารีเยาะบือซา และ นายหามะ สามะ โดยเจตนาฆ่า กระสุนไม่ถูกนายฮามิและนางมารีเยาะแต่ถูกนายหามะได้รับอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 จำคุก 10 ปี ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง ของกลางให้ริบ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้นายฮามิ นางมารีเยาะและนายหามะผู้เสียหายทั้งสามซึ่งเป็นประจักษ์พยานมิได้มาเบิกความต่อศาล โจทก์คงมีแต่เพียงคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายทั้งสามที่ได้กระทำลับหลังจำเลย กับคำเบิกความของร้อยตำรวจเอกเกียรติ ผู้จับกุมจำเลยและร้อยตำรวจตรีเรวัติพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นพยานที่ได้รับคำบอกเล่าจากผู้เสียหายว่าจำเลยเป็นคนร้ายเท่านั้น พยานหลักฐานโจทกยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด
พิพากษายืน.