คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยกับผู้เสียหายเป็นคู่รักกันเคยไปเที่ยวด้วยกันหลายครั้ง มีจดหมายรักถึงกันในคืนเกิดเหตุจำเลยพาผู้เสียหายไปขอพักที่บ้านผู้อื่นโดยบอกว่าพาเมียมาขอนอนพักด้วยทั้งระหว่างกินข้าวผู้เสียหายกับจำเลยหยอกล้อกัน ดังนี้จำเลยพาผู้เสียหายไปเพื่อเป็นภริยาของจำเลย มิใช่เพื่อการอนาจาร โดยผู้เสียหายเต็มใจไปด้วย และไม่ปรากฏว่าจำเลยมีภริยาอยู่ก่อนแล้ว จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 319.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยพรากผู้เสียหายไปจากมารดเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไปด้วย แล้วจำเลยได้กระทำชำเราผู้เสียหายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276, 318, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 3, 9พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2525มาตรา 4
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 319 วรรคแรก ให้จำคุก 3 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยฎีกา โดยอธิบดีกรมอัยการลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาของโจทก์ว่ามีเหตุสมควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘……….แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานพรากผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์เต็มใจไปด้วยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคแรกนั้นเห็นว่าจำเลยกับผู้เสียหายเป็นคู่รักกันเคยไปเที่ยวด้วยกันหลายครั้ง มีจดหมายรักถึงกันตามจดหมายของผู้เสียหายเอกสารหมาย ล.1 ถึง ล.3 ในคืนเกิดเหตุเมื่อจำเลยพาผู้เสียหายไปขอพักบ้านของนายสมชายหรือแพะนายสมชายหรือแพะพยานจำเลยก็ว่าจำเลยพาเมียมาขอพักด้วย จึงได้จัดให้พักนอนที่บ้านนายเถาเช้าวันรุ่งขึ้นก่อนมารดาผู้เสียหายกับพวกมาพบนายสมชายหรือแพะจัดอาหารให้กิน แล้วจึงไปนอนกันใหม่ ระหว่างกินข้าวผู้เสียหายกับจำเลยหยอกล้อกันด้วยเห็นว่าจำเลยพาผู้เสียหายไปเพื่อเป็นภริยาของจำเลย มิใช่เพื่อการอนาจาร โดยผู้เสียหายเต็มใจไปด้วย และไม่ปรากฏว่าจำเลยมีภริยาอยู่ก่อนแล้วการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 319…………………………’
พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 319นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share