แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นแจ้งวันนัดสืบพยานให้โจทก์ทราบล่วงหน้าเพียง2 วัน ขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา184 วรรคแรก ซึ่งบัญญัติให้ศาลต้องออกหมายกำหนดวันสืบพยานให้คู่ความทราบล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 3 วัน การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและดำเนินคดีต่อไปในวันดังกล่าว จึงเป็นการไม่ชอบ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยได้นำเอาเสาปูนซีเมนต์และเสาไม้เข้าไปปักเป็นแนวเขตในที่ดินของโจทก์ และได้นำเอาต้นมะขามเข้าไปปลูกลงในที่ดินที่บุกรุก การกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกไปจากที่ดิน พร้อมทั้งรื้อถอนเสาปูนซีเมนต์ เสาไม้ และต้นมะขามออกไปจากที่ดินพิพาทด้วย จำเลยให้การว่า จำเลยได้เข้าครอบครองที่ดินพิพาทเป็นเจ้าของอย่างเปิดเผยโดยปลูกต้นมะขามหวานเกือบมีผลแล้ว ไม่มีใครโต้แย้งฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีไม่จำต้องชี้สองสถาน ให้นัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 29 สิงหาคม 2529 เมื่อถึงวันนัดทนายโจทก์ยื่นคำร้องว่าได้รับหมายนัดสืบพยานโจทก์เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2529 จึงขอเลื่อนคดี พร้อมกันนั้นทนายโจทก์ก็ได้ยื่นบัญชีพยาน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี และโจทก์มิได้ยื่นคำร้องแจ้งข้อขัดข้องถึงเหตุที่มิได้ยื่นบัญชีพยานก่อนวันสืบพยาน 3 วัน จึงไม่รับบัญชีพยาน ส่วนจำเลยก็มิได้ยื่นบัญชีพยาน จึงให้งดสืบพยานโจทก์และจำเลย แล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ทนายโจทก์ทราบวันนัดสืบพยานเพียง 2 วัน ไม่มีทางที่จะยื่นบัญชีพยานก่อนวันสืบพยาน 3 วันได้ โจทก์สามารถยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี และขอยื่นบัญชีพยานรวมกันมาได้ คำร้องของโจทก์จึงมีเหตุสมควรที่จะรับบัญชีพยานของโจทก์ไว้ และสืบพยานโจทก์ไป พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีพยานของโจทก์ไว้ และดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงได้ความว่า คดีนี้ไม่มีการชี้สองสถาน โดยศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นัดสืบพยานโจทก์ก่อน และได้ส่งหมายนัดดังกล่าวให้ศาลแพ่งเพื่อขอให้ส่งแก่ทนายโจทก์ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร พนักงานเดินหมายนำหมายนัดนั้นส่งให้แก่นายสุชาติซึ่งอยู่สถานที่เดียวกันกับทนายโจทก์รับไว้เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2529 ปรากฏตามรายงานการเดินหมายในสำนวนคดีนี้อันดับ 32 ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อวันนัดสืบพยานโจทก์ที่ศาลชั้นต้นกำหนดเป็นวันที่ 29 สิงหาคม 2529 โจทก์จึงทราบวันนัดดังกล่าวก่อนวันสืบพยานเพียง 2 วัน การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและดำเนินคดีต่อไปในวันนั้น จึงเป็นการไม่ชอบ เนื่องจากขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 184 วรรคแรก ซึ่งระบุให้ศาลออกหมายกำหนดวันสืบพยานส่งให้คู่ความทราบล่วงหน้าไม่ต่ำกว่าสามวัน ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีพยานของโจทก์ และดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน